นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เสนอ “ปิดประเทศ 21 วัน” เพื่อป้องกันวิกฤติไวรัสโควิด-19 ลุกลาม ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha อีกครั้ง โดยมี 3 เหตุผลที่กระตุ้นเตือนให้ต้องรีบตัดสินใจ โดยสรุปคือ
1. “ไม่มียา” นพ.ธีระวัฒน์ ระบุว่า วารสารนิวอิงแลนด์ รายงานยา lopinavir/ritonavir ไม่ได้ผลในไวรัสโควิด-19 ทำให้ยาที่ไทยพอจะหาได้ คือ ยาchloroquine ที่รักษามาลาเรีย และ ยาfavipiravir ซึ่งผลิตที่ญี่ปุ่นและจีน ไทยต้องนำเข้า โดยขณะนี้มียาตัวนี้ในประเทศเพียงพอสำหรับผู้ป่วย 600-700 คน ( 1 คนใช้ 70 เม็ด) ล่าสุดมีการนำเข้ามาเพิ่มเติม 120,000 เม็ด รักษาได้เพิ่มอีก 2857 คน
2. ระบบสาธารณสุข กายภาพ อุปกรณ์ กำลังคน เตียง แยกอาการหนัก ที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิตและก่อให้เกิดละอองที่จะให้เกิดการติดต่อทางการหายใจ ซึ่งควรต้องเป็นห้องความดันลบจริงๆ ที่ทั้งประเทศ มี 100 กว่าห้อง?
ขณะที่บุคลากรที่เป็นแพทย์ทั่วประเทศ จำนวน 30,000 คน เป็นแพทย์ทางด้านการติดเชื้อและภาวะวิกฤติไม่ถึง 1,000 คน
3. สกัดการแพร่เชื้อแบบลูกโซ่ก่อนเชื้อเข้าสู่โรงพยาบาล นพ.ธีระวัฒน์ ระบุอีกว่า ถึงวันนี้เป็นวาระสุดท้ายที่ต้องก้าวนำเชื้อโรคไม่ใช่เกิดวิกฤติรุกล้ำเข้าไปในระบบสาธารณสุขมากกว่านี้
“ผู้ติดเชื้อที่เป็นหนุ่มสาวแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวจะเป็นคนแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงสุดไม่ว่าในที่ทำงาน ในระหว่างการเดินทางด้วยรถสาธารณะ หลังเวลาทำงาน ไปแพร่ระหว่างกลุ่มคนอีกมากมาย และเมื่อเชื้อแพร่เข้าไปในกลุ่มคนเปราะบางสูงอายุและมีโรคประจำตัวและเมื่อเชื้อเข้าไปในนโรงพยาบาลจากญาติผู้ป่วยที่เข้าไปเยี่ยม โดยมีการติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือน้อยมากจนตรวจจับไม่พบ เมื่อนั้นก็จะเป็นการแพร่อย่างรวดเร็ว”
“เรียนจากประเทศจีน เรียนจากประเทศอื่นๆ ที่ไม่ยอมรับบทเรียนและวิธีแก้ไขจากประเทศจีน เราฟื้นความมั่นใจความเขื่อมั่นรวมทั้งเศรษฐกิจได้ค่าเราทำจริง เราเหลือเวลาน้อยมาก จากใจ หมอธีระวัฒน์”
ที่มา: ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha