Categories
ข่าว

แจ้งล่วงหน้าแล้ว!! เตรียมตัวให้พร้อม “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ห้ามทำ ให้ทำ และควรทำ เริ่มใช้เที่ยงคืนวันนี้

วันที่ 25 มี.ค.63 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 หลังการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 26 มี.ค.- 30 เม.ย. 2563 ว่าสาเหตุที่แจ้งล่วงหน้านั้น รัฐบาลต้องมีการเตรียมการก่อนและไม่สามารถประกาศได้ทันที จึงเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีต้องแจ้งล่วงหน้า

สำหรับประชาชนกำหนดไว้ 3 ประเภทที่พึงปฏิบัติ คือ ห้ามทำ ให้ทำ และควรทำ

ห้ามทำ คือ ห้ามประชาชนเข้าพื้นที่เขตกำหนด ตามคำสั่งผู้ว่าแต่ละจังหวัด อาทิ สนามกีฬา สนามบันเทิง ส่วนในจังหวัดผู้ว่าฯ ยังไม่ออกคำสั่งห้ามหรือปิด ให้สั่งห้ามทั้งหมดให้เหมือนกัน แต่ไม่จำเป็นต้องสั่งห้ามปิดทั้งหมดเพราะแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน ส่วนสถานที่ใดยังไม่ห้าม ให้ปฏิบัติตามความเหมาะสม เช่น ชายหาดต่าง ๆ จึงขอให้ผู้ว่าฯ พิจารณาตามความเหมาะสม

ห้ามคนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ไม่ว่าจะทางเรือ อากาศ ทางบก ทุกจุดทุกด่าน ทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ยกเว้นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศสามารถเดินทางเข้ามาได้ (ผู้มีสัญชาติไทย แต่ต้องมีเอกสารสำคัญคือใบรับรองแพทย์) ทั้งนี้หากคนไทยในต่างประเทศไม่มีใบรับรองแพทย์ให้ติดต่อสถานทูตเพื่อรับรองการเดินทาง พร้อมยกเว้นบุคคลในคณะทูตที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ซึ่งหมายรวมถึงสมาชิกในครอบครัวโดยมีข้อปฏิบัติเช่นเดียวกับคนไทย รวมถึงผู้ขนส่งสินค้าสามารถเข้ามาได้แต่ต้องออกไปอย่างรวดเร็ว ยกเว้นผู้ที่มากับยานพาหนะ คือ นักบิน แอร์ สจ๊วต และสุดท้ายบุคคลที่ได้รับอนุญาตโดยนายกรัฐมนตรี

ห้ามการชุมนุม ที่มีคนมาก ๆ ไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม อาทิ สนามมวย เว้นแต่ปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันถูกต้องทางการแพทย์

ห้ามแพร่ข่าวปลอมที่จะทำให้คนตระหนกเกี่ยวกับโควิด-19 กรณีนี้รัฐจำเป็นต้องระมัดระวัง หากท่านจะแพร่ข่าวอื่นก็สามารถทำได้หากถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากแพร่ข่าวโควิด-19 ผิดนั้นกระทำไม่ได้โดยเด็ดขาด

ให้ทำ คือ ให้ส่วนราชการของรัฐดำเนินการเพื่อประชาชน ให้หน่วยงานของรัฐเตรียมโรงพยาบาล เตรียมเตียง เตรียมยา เตรียมแพทย์ ที่จะมารับมือกับสถานการณ์ โดยให้คิดไปถึงการวางโรงแรมในการรักษา ศาลาวัดใช้รักษาผู้ป่วย รวมถึงอาคารของเอกชน และสถานที่ต่าง ๆ เพื่อทำเป็นโรงพยาบาลสนาม อาทิ รพ.ธรรมศาสตร์ ทหาร ตำรวจ รวมถึงเอกชนด้วย

ควรทำ คือ สำหรับประชาชนควรที่จะอยู่บ้าน ไม่ออกนอกบ้าน แต่จะสั่งห้ามทันทีไม่ได้ แต่อีกไม่นานจะมีการสั่งห้าม โดยกำหนดบุคคล 3 ประเภทที่แพทย์มีคำแนะนำให้อยู่บ้าน
1. บุคคลที่สูงอายุเกินกว่า 70 ปี
2. บุคคลอายุใดก็ตามที่มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน ปอด โรคระบบทางเดินหายใจ ฯลฯ
3. เด็กตั้งแต่ 5 ขวบลงมา เสี่ยงต่อการติดโรคสูงมาก
ทั้งนี้เว้นแต่จำเป็นต้องออกมาทำธุรการต่าง ๆ ที่จำเป็น แต่ต้องกลับโดยเร็ว

ส่วนการเดินทางไปต่างจังหวัดนั้นยังอยู่ในมาตรการที่สามารถเดินทางได้ แต่เป็นกรณีที่มีมาตรการเกี่ยวข้องอาจจะทำให้การเดินทางนั้นมีความยากลำบากมากขึ้นจนยากต่อการเดินทาง เว้นแต่ผู้จำเป็นจริง ๆ โดยจะมีหน่วยงามความมั่นคงตั้งด่านตามชายแดนแต่ละจังหวัด การเดินทางต้องมีการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือด้วยเจล หากไม่กระทำจะถูกห้ามเดินทางและอาจถูกดำเนินคดี รวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ก็จะถูกดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้ต้องมีการกรอกแบบฟอร์มรายละเอียดประจำตัวต่าง ๆ เพื่อป้องกัน เพื่อความง่ายในการติดตามตัว หากใครติดเชื้อโควิด-19 จะได้เรียกตัวมาสอบสวนโรคโดยง่าย

อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถไปซื้อหาอาหารได้ตามปกติ โดยไม่กำหนดเวลาเข้า- ออกจากบ้าน แต่ห้ามกักตุนสินค้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาควบคุมราคา รวมถึงสถานที่ราชการ ธุรกรรมทางการเงิน โรงพัก โรงพยาบาล ร้านขายยา การขนส่งสินค้า การบริการเดลิเวอรี่ ยังเปิดตามปกติ โดยข้อปฏิบัติทุกอย่างนั้นจะบังคับใช้ในเวลา 24.00 น. คืนนี้