Categories
ข่าว

รวบยกแก๊งค์! ตำรวจจับกลุ่มชายลักลอบขนไม้พะยูง เย้ยเคอร์ฟิว ที่ อ.เมืองร้อยเอ็ด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่องช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 เม.ย. 2563 เวลา 02.00 น. พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อมชุดสืบสวน สายตรวจรถยนต์และจักรยานยนต์ ได้ออกตรวจพื้นที่ เพื่อกวดขันผู้ฝ่าฝืนตาม พรก.ฉุกเฉิน ห้ามออกนอกเคหสถาน ในระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. บนถนนบายพาสเลี่ยงเมือง (บายพาสโนนเมือง-วาปีปทุม) ตำบลดงลาน อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด พบรถกระบะโตโยต้า สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน บม 7072 ร้อยเอ็ด วิ่งผ่านไปโดยมีผ้าใบคุมเอาไว้มีลักษณะต้องสงสัย จึงได้เรียกตรวจพบไม้พะยูงขนาดใหญ่ 6 ท่อน น้ำหนักกว่า 1 ตัน แบตเตอร์รี่ 2 ลูก เลื่อยโซ่ยนต์ เครื่องแปลงไฟและรถเข็น จึงควบคุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ส่วนอีก 2 คนวิ่งหลบหนีไป นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด

จากการสอบสวนผู้ต้องหาเล่าว่า ตนทั้ง 2 คนได้ร่วมกับพวกที่หลบหนีอีก 2 คน ได้นำรถกระบะไปขนไม้ที่ตัดไว้ในพื้นที่บ้านดวงสวอง ตำบลสีแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจะนำไปเก็บไว้ที่บ้านของผู้ต้องหาที่หลบหนี แต่มาถูกเรียกตรวจดังกล่าว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ นายพิกุล คำพวง อายุ 44 ปี และนายวัฒนา แปนบ้าน อายุ 25 ปี ทั้ง 2 คนเป็นชาวอำเภอโพนทอง ในข้อหา ”ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุ จำเป็นอื่นๆโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่,ร่วมกันทำและมีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) อันยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 เม.ย. ชุดสืบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้ติดตามตัวผู้ต้องหาที่วิ่งหลบหนี 2 คนไว้ได้ ทราบชื่อคือนายสมร คำสอนพันธ์ อาชีพภารโรง อายุ 43 ปี ชาวอำเภอเมืองร้อยเอ็ด และนายสมบูรณ์ แสงปาก อายุ 63 ปี ชาวอำเภอโพนทอง พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหา ”ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุ จำเป็นอื่นๆโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่,ร่วมกันทำและมีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) อันยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป