Categories
ข่าว

คืนหลวงทั้งหมด!! “ธรรมนัส” สั่งยึดฟาร์มไก่ “ปารีณา” รุกป่า-สปก.

วันที่ 25 พ.ย.2562 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมป่าไม้ ที่เข้าไปสำรวจพื้นที่แล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนวันที่ 27 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าดำเนินการกับกรณีนี้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับกรณีอื่นๆ ไม่มีแรงกดดันจากใคร และทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน

ส่วนจะต้องส่งมอบข้อมูลการบุกรุกพื้นที่ป่าของ ส.ส.ปารีณา ให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อย ซึ่งการตรวจสอบคงต้องใช้เวลา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขึ้นกับการพิสูจน์สิทธิ์ออกมา ต้องมีการรังวัดที่ต้องรอบคอบ ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาตามมา

“อะไรที่ไม่ใช่ เป็นของเกษตรกร แต่ไปอยู่ในมือของนายทุนจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายที่มีอยู่”

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ได้ข้อยุติพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของกรมป่าไม้ มีการบุกรุกเขตป่าชัดเจน จะดำเนินตามกฎหมายแน่นอน และต้องให้เวลาคณะทำงานกรมป่าไม้ ตรวจสอบที่ดินเขาสนฟาร์ม ตามหมายศาลตรวจสอบพื้นที่ รวบรวมเอกสารทั้งหมดที่ต้องได้รับการรับรองอย่างถูกต้องผ่านคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน เพื่อไม่ให้เกิดจุดอ่อนทางคดี

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้สั่งการนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.)ดำเนินการกรณีน.ส.ปารีณา ครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน หลังการตรวจสอบของคณะทำงานร่วมของสปก.-กรมป่าไม้ ซึ่งนายวิณะโรจน์ รายงานว่า ที่ดินที่แสดงบัญชีแสดงทรัพย์สินต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และบัญชีแสดงการจดทะเบียนครอบครองฟาร์มไก่เนื้อ จากกรมปศุสัตว์

ซึ่งคณะทำงานตรวจสอบจากการ อ่านแปลภาพทางอากาศ ประกอบการนำชี้ของผู้ใหญ่บ้าน พบว่าเขาสน 1 อยู่ในเขตพื้นที่ปฎิรูปที่ดินทั้งหมด เนื้อที่ 691 ไร่ ส่วนเขาสน 2 เป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เนื้อที่ประมาณ 46 ไร่

“การครอบครองพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเกินกว่า50 ไร่ผิดตามพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จึงสั่งให้ยึดคืนหลวงทั้งหมด จากนั้นจะให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย”

ทั้งนี้การครอบครองที่ดินของครอบครัว น.ส.ปารีณาที่แจ้งว่า เข้ามาใช้ประโยชน์ตั้งแต่พ.ศ.2489 ก่อนที่กรมป่าไม้ จะมอบให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินในพ.ศ.2536 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่สามารถดำเนินคดีได้แล้ว เนื่องจากครอบครองเกิน 10 ปี จึงหมดอายุความแล้ว แต่ให้พิจารณาว่าสามารถฟ้องร้องทางแพ่ง ฐานทำให้ที่ดินของรัฐเสียหาย และใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตได้หรือไม่

ขณะนี้ทาง ส.ป.ก. ได้ปักป้ายหน้าฟาร์มว่าเป็นที่ดินของส.ป.ก.ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้เชิญน.ส.ปารีณา มาอุทธรณ์ โดยหากมีเอกสารการเข้าทำประโยชน์ให้นำมาแสดง จากนั้นส.ป.ก. จะตรวจสอบว่า การอุทธรณ์และเอกสารที่นำมาแสดงนั้นฟังขึ้นหรือไม่ ถ้าฟังไม่ขึ้นต้องยึดคืนแล้วนำมาจัดสรรใหม่ให้ผู้มีคุณสมบัติเข้าประกอบอาชีพเกษตรกรรม