Categories
ข่าว

“ร้อยเอ็ดต้องเป็นศูนย์” ขอให้คงมาตรการป้องกันโควิด-19 แม้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563 เวลา 15.00 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการแถลงข่าว เรื่องสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 55 ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายโสภณ เจริญพร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด พ.อ. กล้าณรงค์ วิสุตกุล ผู้แทนรอง ผอ.รมน.ร้อยเอ็ด นายแพทย์พิทักษ์พงศ์ พายุหะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และนายศฎายุช ไชยะลาด จ่าจังหวัดร้อยเอ็ดร่วมแถลงข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ –  2 มิถุนายน 2563) จำนวน 344 ราย พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 3 ราย (กลับบ้านแล้ว 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 341 ราย การเฝ้าระวังเชิงรุกในชุมชน (ระหว่างวันที่ 3 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2563) โดยการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ ในกลุ่มประชาชน ที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดภูเก็ต ยอดสะสมจำนวน 197 คน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 191 คน รอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 6 คน

สถานการณ์ทั่วโลกใน 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ (ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม ถึง 2 มิถุนายน 2563 เวลา 09.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ จำนวน 6,366,197 ราย เสี ยชีวิต 377,437 ราย ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 1,859,323 ราย เสี ยชีวิต  106,925 ราย รองลงมา คือบราซิล 529,405ราย เสี ยชีวิต 30,046 ราย และ  รัสเซีย 414,878 ราย เสี ยชีวิต 4,855 ราย

สถานการณ์ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 3,083 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 1 ราย เสี ยชีวิตสะสม 58 ราย และ มียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ในอันดับที่ 79 ของโลก

หลังจากจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 7 มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ได้ผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 อนุญาตให้ดำเนินกิจการหรือกิจกรรมบางส่วนเพิ่มเติม ซึ่งการผ่อนคลายกิจการหรือกิจกรรมจะทำให้มีผู้เข้าใช้บริการและเกิดการรวมตัวของคนมากขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่และสัมผัสเชื้อได้ จึงขอให้สถานประกอบการเข้มงวด ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการอย่างเคร่งครัด โดยจัดให้มีการวัดไข้คัดกรองทุกคนที่เข้าพื้นที่ และให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า จัดทางเข้าออกทางเดียว จัดตั้งจุดวางแอลกอฮอล์เจลล้างมือ จัดพื้นที่ให้บริการโดยเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร จำกัดจำนวนคนและระยะเวลาการรับบริการแต่ละครั้ง มีการทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสร่วมกัน เช่น ราวบันได ราวจับ ปุ่มกดลิฟต์ ห้องน้ำ ก๊อกน้ำ โต๊ะ ทุก 2 ชั่วโมง เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน สำหรับผู้เข้ารับบริการขอให้คำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของตนเองเป็นหลัก โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของสถานที่อย่างเคร่งครัด ที่สำคัญคือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เว้นระยะระหว่างผู้อื่น และล้างมือบ่อยๆ

ถึงแม้ว่าสถานการณ์การเกิดโรคโควิด-19 ของประเทศขณะนี้จะดีขึ้นแล้ว โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ ส่วนผู้ติดเชื้อภายในประเทศมีจำนวนลดลง อาจทำให้ประชาชนบางส่วนเกิดความชะล่าใจละเลยการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อได้ จึงขอให้ประชาชนช่วยกันสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน และทำให้เป็นนิสัย ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร จะเป็นการสร้างเกราะป้องกันตัวเอง ลดการแพร่และสัมผัสเชื้อโควิด 19 และ โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ


 
ชาวร้อยเอ็ดร่วมใจ ใช้ชีวิตวิถีใหม่ ปฏิบัติตามวินัยใหม่ จะปลอดภัยจากโรคโควิด-19
“ล้างมือ  กินร้อน  ไม่กินร่วม สวมหน้ากากอนามัย อยู่ไกลกัน 2 เมตร”