วันที่ 3 มิ.ย.63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ แถลงถึงประเด็นความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐและการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค ว่า การปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารภายในพรรค ไม่มีความขัดแย้งหรือการทะเลาะกัน แต่เหตุผลสำคัญเพื่อปรับเปลี่ยนพรรคให้มีความกระฉับกระเฉงก้าวไปสู่การเป็นพรรคการเมืองอันดับหนึ่ง จากปัจจุบันที่พรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นพรรคการเมืองอันดับ2 และยังเป็นการเตรียมความพร้อมต่อการเลือกตั้งใน 3 ปีข้างหน้า
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ที่มีคนในพรรคต่างสนับสนุนให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคว่า การปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีโอกาสจะเข้ามาทำงานใหม่ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง โดยใครที่เข้าใจและเสนอในส่วนที่จะตอบสนองประชาชนและประเทศชาติได้คนนั้นจะได้รับการยอมรับ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ส่วนในความเห็น พล.อ.ประวิตร เหมาะสมหรือไม่กำลังรอฟังว่า พล.อ.ประวิตร จะตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและประชาชนได้หรือไม่ แต่ส่วนตัวเห็นว่า พล.อ.ประวิตร มีจุดแข็งที่สามารถ นำเสนอนโยบายให้กับรัฐบาลได้โดยตรง
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังตอบคำถามถึงความสัมพันธ์ กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีว่า เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนความเชื่อมโยงระหว่างนายสมคิดกับกลุ่มสามมิตรย้ำว่า ที่ผ่านมานายสมคิด เคยพูดในสภา และอีกหลายๆ ที่ โดยยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องและไม่ใช่คนในกลุ่มสามมิตร ดังนั้น จะเอามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร และยืนยันไม่เกี่ยวข้องกันรวมถึงกลุ่มสามมิตรไม่คิดเป็นกลุ่มก้อน เพราะได้สลายสามมิตรไปแล้ว