พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 กองบังคับการปราบปราม นำกำลัง เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพระสรรเสริญ หรือนายสรรเสริญ อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งที่ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พาสีกาเข้ามามีเพศสัมพันธ์ภายในกุฎิวัดอันเป็นการผิดวินัยสงฆ์
เนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 นางเอ (นามสมมุติ) ได้รู้จักกับพระสรรเสริญ นัดพบกันที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.บางแพ จว.ราชบุรี จากนั้นพระสรรเสริญฯ ได้เชื้อเชิญให้นางเอไปทำบุญที่วัดที่ตนเป็นเจ้าอาวาส นางเอก็เดินทางไปที่วัดแห่งนั้นบ่อยครั้งจนนายบี (นามสมมุติ) สามีของนางเอเกิดความสงสัย แต่นางเอก็อ้างว่าไปงานกฐิน, งานผ้าป่า, หรืองานวัดต่าง ๆ โดยเอาลูกสาวอายุ 14 ปีไปด้วย นานวันเข้านายบีจึงได้สอบถามลูกสาวถึงพฤติกรรมของนางบีผู้เป็นแม่ ได้ใจความว่าเมื่อนางเอไปถึงวัด จะเดินเข้าไปในกุฏิของพระสรรเสริญ จากนั้นพระสรรเสริญฯ จะเดินตามเข้าและล็อกห้อง หายไปประมาณ 1-2 ชั่วโมงโดยให้ตนนั้นอ่านหนังสือรออยู่ข้างนอก นายบีจึงยิ่งเกิดความสงสัย และเมื่อนางเอกลับจากวัดนายบีได้แอบค้นข้าวของที่ซ่อนในกระเป๋าพบ “ถุงยางอนามัย” ในกระเป๋านางเอ
ต่อมานายบีได้ขอให้บุตรสาวแอบมองไปในกุฎิของพระสรรเสริญขณะที่อยู่กับนางเอ จึงได้เห็นภาพพระสรรเสริญกับแม่มีเพศสัมพันธ์กัน นายบีได้ทราบเหตุและเห็นว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมจึงได้มาร้องเรียนให้ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามช่วยตรวจสอบ
ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. 63 เจ้าหน้าท่ีตํารวจ กก.5. บก.ป. ได้มาตรวจสอบตามข้อร้องเรียน และพบพระสรรเสริญกําลังมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวคนหนึ่งภายในกุฏิ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้สํานักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดกาญจนบุรีทราบ โดยมี นายสหัส บรรจงเมือง นักวิชาการศาสนาชํานาญการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าร่วมตรวจสอบด้วย พบพยานหลักฐานในการกระทําความผิดจริงและพระสรรเสริญได้รับสารภาพว่าได้ร่วมมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวจริง จึงยินยอมสึกจากสมณเพศ โดยได้เดินทางไปสึกกับพระโสภณกาญจนาภรณ์ เจ้าคณะอําเภอเมืองกาญจนบุรี ท่ีวัดไชยชุมพลชนะสงคราม.
