วันนี้ 26 มิถุนายน 2563 เวลา 15.00 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการแถลงข่าว เรื่องสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 73 ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พ.อ. กล้าณรงค์ วิสุตกุล ผู้แทนรอง ผอ.รมน.ร้อยเอ็ด นายคมเพชร สีดามาตย์ ผู้แทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ดนายแพทย์พิทักษ์พงศ์ พายุหะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และนายศฎายุช ไชยะลาด จ่าจังหวัดร้อยเอ็ดร่วมแถลงข่าว
ก่อนการแถลงข่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้อ่านสารและคำประกาศเจตนารมณ์เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดแถลงว่าจังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 26 มิถุนายน 2563) จำนวน 366 ราย ไม่มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อรายใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 3 ราย (รักษาหายทั้ง 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 363 ราย การค้นหาเชิงรุกผู้ต้องขังแรกรับในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 17 – 26 มิถุนายน 2563) จำนวน 84 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 84 ราย
สถานการณ์ทั่วโลกใน 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ (ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม ถึง 26 มิถุนายน 2563 เวลา 10.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ จำนวน 9,710,205 ราย เสียชีวิต 491,783 ราย ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 2,504,588 ราย เสี ยชีวิต 126,780 ราย รองลงมา คือ บราซิล 1,233,147 ราย เสี ยชีวิต 55,054 ราย และ รัสเซีย 613,994 ราย เสียชีวิต 8,605 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 3,162 ราย มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย เสี ยชีวิตสะสม 58 ราย และ มียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ในลำดับที่ 94 ของโลก
สถานการณ์การติดเชื้อของประเทศไทยขณะนี้ยังคงเป็นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ส่วนการติดเชื้อภายในประเทศถึงวันนี้นับเป็นเวลา 32 วันแล้วที่ไม่พบรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ (จังหวัดร้อยเอ็ดไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลา 94 วัน) รัฐบาลขอความร่วมมือให้ประชาชนและทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 และคณะรัฐมนตรีมีมติให้หยุดชดเชยในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาในช่วงวันที่ 4 – 7 กรกฎาคมนี้ ทำให้มีประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว ทำบุญในช่วงวันหยุดยาว บางสถานที่อาจเกิดความแออัด มีการรวมตัวของคนจำนวนมากซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่และสัมผัสเชื้อภายในประเทศถึงวันนี้นับเป็นเวลา 32 วันแล้วที่ไม่พบรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่
1. ทุกครั้งที่ออกจากบ้านให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
2. เลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก
3. หมั่นล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ และพกแอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือ
4. ลงทะเบียนเข้า – ออกสถานที่ ด้วยแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเอง หากเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะง่ายต่อการติดตามเข้าสู่ระบบการตรวจรักษา ที่สำคัญคือ เมื่อท่านมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ต้องอยู่บ้านพักรักษาตัวไม่ไปในสถานที่ต่างๆ ส่วนกลุ่มบุคคลที่ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่ชุมชน เนื่องจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้ง่าย คือ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
ส่วนวัดหรือศาสนสถาน ควรปฏิบัติตามมาตรการของกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น การจัดระเบียบพื้นที่ให้ลดความแออัดเมื่อเข้าไปในสถานที่ที่จะประกอบศาสนกิจต่างๆ จัดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้ที่เข้ามาในวัด หากอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ไม่อนุญาตให้ร่วมทำกิจกรรม ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า จัดจุดให้บริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือแอลกอฮอล์เจล รักษาความสะอาดภายในวัด จัดระบบระบายอากาศให้ถ่ายเทได้ดี ลงทะเบียนเข้า – ออก ทุกครั้งด้วยแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” และ กระชับพิธีการในการประกอบพิธีกรรมให้สั้นลงเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19
ขอเชิญชวนชาวร้อยเอ็ดร่วมใจ ใช้ชีวิตวิถีใหม่ ให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19
“อยู่ห่างไว้ ใส่แมสกัน หมั่นล้างมือ ถือหลักรักสะอาด ปราศจากแออัด จัดไปไทยชนะ”