“ห่วงประชาชน” ร้อยเอ็ดแนะเวียนเทียนกาดอย่าตก ใส่แมสเว้นระยะห่าง

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 15.00 น. นายวันชัย คงเกษมผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดมอบหมายให้ นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายเจนเจตน์ เจนนาวิน ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด นายประวุฒิ ละครราช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด นายโสภณ เจริญพร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 78 ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 3 กรกฎาคม 2563) จำนวน 368 ราย มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อรายใหม่ 2 ราย พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 3 ราย (รักษาหายทั้ง 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 364 ราย รอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการ 1 ราย การค้นหาเชิงรุกผู้ต้องขังแรกรับในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 17 – 3 กรกฎาคม 2563) จำนวน 161 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 154 ราย รอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการ 7 ราย

สถานการณ์ทั่วโลกใน 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ (ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม ถึง 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ จำนวน 10,984,735 ราย (มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 208,864 ราย นับเป็นการเพิ่มของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดนับตั้งแต่มีการเกิดระบาดของโรคโควิด-19) เสี ยชีวิต 524,036 ราย (มีผู้เสี ยชีวิตเพิ่มขึ้น 5,155 ราย) ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 2,837,189 ราย เสี ยชีวิต 131,485 ราย รองลงมา คือ บราซิล 1,501,353 ราย เสี ยชีวิต 61,990 ราย และ รัสเซีย 661,165 ราย เสี ยชีวิต 9,683 ราย

สถานการณ์ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 3,180 ราย มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เสี ยชีวิตสะสม 58 ราย และ มียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ในลำดับที่ 96 ของโลก

จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เข้าสู่มาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 ซึ่งเป็นการผ่อนคลายกิจการหรือกิจกรรมที่มีความ เสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนและทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติอย่างเข้มข้นมากกว่าเดิม ประกอบกับ คณะรัฐมนตรีมีมติให้หยุดชดเชยในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาในช่วงวันที่ 4 – 7 กรกฎาคม 2563 ทำให้มีประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว ทำบุญในช่วงวันหยุดยาว บางสถานที่อาจเกิดความแออัด มีการรวมตัวของคนจำนวนมากซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่และสัมผัสเชื้อได้ จังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอความร่วมมือประชาชนอย่าประมาท ให้ป้องกันตัวเอง โดยการปฏิบัติดังนี้ 1. ทุกครั้งที่ออกจากบ้านให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 2. หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก 3. หมั่นล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจล 4. ลงทะเบียนเข้า – ออกสถานที่ ด้วยแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเอง หากเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะง่ายต่อการติดตามเข้าสู่ระบบการตรวจรักษา ประการสำคัญคือ เมื่อท่านมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ต้องอยู่บ้านพักรักษาตัวไม่ไปในสถานที่ต่างๆ ส่วนกลุ่มบุคคลที่ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่ชุมชน เนื่องจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้ง่าย คือ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว

ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาพระสงฆ์และผู้มาทำบุญตักบาตรต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดให้มีอ่างล้างมือและสบู่ เตรียมโต๊ะสำหรับวางของใส่บาตร กำหนดที่นั่งห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร จัดชุดสำหรับฉันอาหารเฉพาะรูป กำหนดเส้นทางเดินใส่บาตรให้เดินทางเดียว เว้นระยะห่าง 2 เมตร กำหนดเส้นทางเข้า-ออกไม่ให้สวนทางกัน ลดความแออัด และมีการประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนการสวมหน้ากากและล้างมือ หากมีอาการป่วยเป็นไข้ ขอให้งดการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา หรือกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งการเข้าไปในที่ชุมชน

ขอเชิญชวนชาวร้อยเอ็ดร่วมใจ ใช้ชีวิตวิถีใหม่ ให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19
“อยู่ห่างไว้ ใส่แมสกัน หมั่นล้างมือ ถือหลักรักสะอาด ปราศจากแออัด จัดไปไทยชนะ”