เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 15.00 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการแถลงข่าว เรื่องสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 96 ณ ห้องรับรองบ่อพันขัน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายเจนเจตน์ เจนนาวิน ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด นายคมเพชร สีดามาตย์ ผู้แทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด และนายแพทย์พิทักษ์พงศ์ พายุหะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดร่วมแถลงข่าว
จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2563) จำนวน 376 ราย ไม่มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อรายใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 3 ราย(รักษาหายทั้ง 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 373 ราย การค้นหาเชิงรุกผู้ต้องขังแรกรับในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2563) จำนวน 354 ราย ส่งตรวจรายใหม่ 12 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด – 19 จำนวน 342 ราย รอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 12 ราย
สถานการณ์ทั่วโลก ใน 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ (ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม ถึง 31กรกฎาคม 2563 เวลา 09.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 17,466,695 ราย (มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 280,337 ราย) มีผู้เสี ยชีวิตสะสม 676,495 ราย (มีผู้เสี ยชีวิตเพิ่มขึ้น 6,221 ราย) ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 4,634,985 ราย เสี ยชีวิต 155,285 ราย รองลงมา คือ บราซิล 2,613,789 ราย เสี ยชีวิต 91,377 ราย และอินเดีย 1,639,350 ราย เสี ยชีวิต 35,786 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสมจำนวน 3,310 ราย มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย เสี ยชีวิตสะสม 58 ราย และมียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ในลำดับที่ 107 ของโลก
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย และส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจ อาจทำให้มีอาการรุนแรงและมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานอัตราการเสียชีวิตจากโควิด 19 (ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2563) พบว่า ในช่วงอายุ 60-69 ปี มีอัตราเสียชีวิตร้อยละ 5.0 และอายุ 70 ปีขึ้นไป ร้อยละ 12.7 ส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง ดังนั้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในผู้สูงอายุ บุคคลในครอบครัวควรให้ความสำคัญในการดูแลเป็นพิเศษ เริ่มจากตัวผู้สูงอายุควรออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร ต้องหมั่นล้างมือทำความสะอาดโดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร และใช้ช้อนกลางส่วนตัว ใช้ช่องทางออนไลน์หรือโทรศัพท์พูดคุยกับบุตรหลาน ส่วนผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา จัดเตรียมยาประจำตัวของผู้สูงอายุให้พร้อม ส่วนบุตรหลานที่ไปทำงานนอกบ้านต้องเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดเพื่อป้องกันการติดและนำเชื้อเข้าบ้าน รวมทั้งควรอาบน้ำเมื่อกลับถึงบ้านหรือก่อนเข้าหาผู้สูงอายุ และหากเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ควรสังเกตอาการตัวเอง หากมีไข้ ไอจาม ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และควรแยกตัวเองเพื่อสังเกตอาการ สำหรับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจะต้องเข้มงวดทุกด้าน คัดกรอง ทุกคนที่เข้าอาคาร ทำความสะอาดจุดหรือบริเวณที่มีการใช้ร่วมกัน โรงครัวหรือโรงอาหารต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลอาหาร จัดให้มีภาชนะและของใช้ส่วนตัวสำหรับผู้สูงอายุ งดหรือหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรม
จังหวัดร้อยเอ็ด ขอความร่วมมือหน่วยงานและสถานประกอบการทุกแห่ง ให้สมัครเข้าสู่ระบบปฏิบัติการไทยชนะ เพื่อขอรับ QR Code ติดไว้ทางเข้า-ออก ให้ผู้ใช้บริการสแกนการเข้า-ออกทุกครั้ง ข้อมูลดังกล่าวจะมีประโยชน์ต่อการติดตามตัวผู้สัมผัสโรค เข้าสู่ระบบการควบคุมโรคที่รวดเร็ว ซึ่งจะเป็นการตัดตอนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในวงกว้างต่อไป
ขอเชิญชวนชาวร้อยเอ็ดร่วมใจ ใช้ชีวิตวิถีใหม่ ให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19
“อยู่ห่างไว้ ใส่แมสกัน หมั่นล้างมือ ถือหลักรักสะอาด ปราศจากแออัด เคร่งครัดไทยชนะ”
