วันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และพล.ต.ต.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะการจับกุมเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จากการสืบสวนขยายผลเมื่อช่วงค่ำของวันที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมนึก ปัญญารมย์ สว.กก.สืบสวน และชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้ทำการสืบสวนติดตามพฤติกรรมของเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดจากแนวชายแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศไทย โดยใช้เส้นทางผ่านอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร มุ่งหน้าสู่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด
โดยผู้ต้องหาได้ใช้รถยนต์สองคันในการดำเนินการ ได้แก่ รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีเทา เพื่อใช้ซุกซ่อนยาเสพติด และรถยนต์กระบะอีซูซุ สีขาว ทำหน้าที่เป็นรถนำสำรวจเส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนซุ่มจับกุม และสามารถสกัดจับรถยนต์ต้องสงสัยทั้งสองคันได้สำเร็จขณะขับตามกันเข้าสู่พื้นที่อำเภอพนมไพร
จากการตรวจสอบรถนำทาง พบนายทองดี (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอ และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ หลายสมัย เป็นผู้ขับขี่ ส่วนรถยนต์เก๋งพบนายศราวุธ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี บุตรชายของนายทองดี เป็นผู้ขับขี่ และมีนายนพฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี นั่งโดยสารมาด้วย การตรวจค้นภายในรถยนต์เก๋ง พบยาบ้าบรรจุในกระสอบจำนวน 200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระโปรงท้ายรถ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายดังกล่าว และยอมรับว่า ยาบ้าชุดนี้มีจำนวนทั้งหมด 600,000 เม็ด โดยได้ส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้ว 200,000 เม็ด ในพื้นที่อำเภอศิลาลาด จังหวัดศรีสะเกษ และกำลังจะนำอีก 200,000 เม็ด ไปส่งมอบในพื้นที่อำเภอพนมไพร ก่อนจะถูกจับกุม นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังให้การเพิ่มเติมว่า ยังมียาบ้าอีก 200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่บ้านพักในอำเภอหัวตะพาน ซึ่งภายหลังได้มีการนำมารวมเป็นของกลางทั้งหมด 400,000 เม็ด ผู้ต้องหายังให้การถึงผู้ว่าจ้างในเครือข่ายนี้ ซึ่งใช้ชื่อเล่นว่า “นายฟลุ๊ค” เป็นชาวอำเภอเข็มราฐ ฝั่ง สปป.ลาว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
พล.ต.ต.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นเครือข่ายยาเสพติดขนาดใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน และขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อหาผู้ร่วมขบวนการและตัวการสำคัญเพิ่มเติม ทั้งนี้ ท่านได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานความมั่นคงทุกภาคส่วน ที่จะร่วมกันปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยและความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่
ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ขอความร่วมมือจากประชาชน หากมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งได้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หรือศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ตลอด 24 ชั่วโมง