Categories
ข่าว

‘ธนาธร’ เข้ารับทราบฯ คดีถือหุ้นสื่อ ยัน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ย้ำไม่ใช่ผู้อยู่เบื้องหลังม็อบ

วันที่ 24 พ.ย.63 ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2  นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกความผิดตาม พรป.ส.ส. 2561 มาตรา 151 จากกรณี กกต. มีมติดำเนินอาญา คดีถือหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด
โดยนายธนาธร บอกก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า จะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง ซึ่งอยากให้เปรียบเทียบคดีของตนเองกับของนายดอน ปรมัติถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ และนางสาวภาดา วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่ศาลให้ดูที่เจตนา และเรื่องรายได้ โดยธุรกิจของตนเองปิดกิจการไปนานแล้ว รวมถึงไม่มีรายได้จากการทำสื่อ และเอกสารของตนเองในการโอนหุ้นมีครบถ้วน แต่ก็ยังไปอ้างการเดินทาง ซึ่งหลักฐานการเดินทางก็มีครบเช่นกัน ทั้งนี้อยากให้ประชาชนติดตามการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระด้วย


นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีการชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งที่มีการแสข่าวของการทำรัฐประหารว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่า รัฐประหารจะเป็นทางออก และไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งวิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองรอบนี้เกิดจากการทำรัฐประหารตั้งแต่ กันยายน 49 ทั้งนี้เชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายเปิดใจยอมรับข้อเท็จจริงในสังคมทางออกที่สันติยังมีอยู่ และตนเองไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารเพราะไม่คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาประเทศได้


ส่วนการออกมาชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา ก็ขอให้ตำรวจ ใช้ขันติธรรม เพราะการที่นักเรียน นักศึกษาออกมาชุมนุมหน้าสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็เพราะข้อเสนอของนักศึกษาไม่ได้รับฟัง ทั้งการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของไอลอว์ แต่ไม่ได้ถูกนำไปพิจารณา รวมถึงการให้พลเอกประยุทธ์ ลาออกด้วย

ทั้งนี้ตนเองไม่เชื่อว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะมีต้นทุนเพียงพอที่จะทำรัฐประหารอีกครั้ง เพราะในรอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีการปลุกปั่นสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงเพื่อเป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร และนักเรียน นักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมืองมีวุฒิภาวะพอ ที่จะไม่ทำให้เป็นผลของความรุนแรง ส่วนที่จะมีกลุ่มคนเสื้อเหลืองออกมาชุมนุมด้วยนั้น มองว่า ตราบใดที่ต่างฝ่ายต่างแสดงออกด้วยเหตุผลไม่ยั่วยุให้เกิดการปะทะ ก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพ


นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีใน ม.112 นั้น ว่า เป็นเหมือนการราดน้ำมันเข้ากองไฟ และมองว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลามาจับกุมและจับแกนนำเข้าคุก และที่มองว่า ธนาธร อยู่เบื้องหลังนั้นยังเข้าใจผิด และเจ้าหน้าที่ตั้งต้นผิดในการจับแกนนำ เพราะเมื่อไม่มีแกนนำก็จะมีคนอื่นๆ ขึ้นมาเป็นแกนนำแทน

ทั้งนี้ยังคงมีการพยายามที่จะต้องการสร้างภาพว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล นางสาวพรรณิการ์ วานิชและอเมริกา อยู่เบื้องหลังการชุมนุมในนักศึกษาเป็นเครื่องมือในการล้มล้างสถาบัน ซึ่งทฤษฎีนี้ ก็ยังไม่มีใครนำหลักฐานมาเปิดเผยได้ว่าอยู่เบื้องหลังอย่างไร โดยเป้าหมายของคนคิดชัดเจนว่าต้องการสร้างความเกลียดชัง ตนจึงยืนยันว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลัง แต่ต้องการเห็นประชาธิปไตยที่ก้าวหน้าเท่าทันกับโลก

สำหรับการมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ มีกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนคณะก้าวหน้า เดินทางให้กำลังใจและมามอบเค้ก รวมถึงของขวัญวันเกิด เพื่ออวยพรวันเกิดล่วงหน้า ให้กับนายธนาธรด้วย ซึ่งวันเกิดของนายธนาธร คือวันที่ 25 พ.ย.