วันที่ 26 พ.ย.63 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯ แก้ไขเพิ่มเติม เตรียมเสนอกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ให้บัญญัติในการแก้ไข ที่นอกจากจะห้ามแก้ไขเปลี่ยนแปลงหมวดที่ 1 บททั่วไป และหมวดที่ 2 ว่าด้วยเรื่องพระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแล้ว ยังจะเพิ่มการห้ามแก้ไขพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ในหมวดอื่น ๆ ของรัฐธรรมนูญด้วย และต้องบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลให้ มาตรา 269 ที่รับรองสถานะ ส.ว.ชุดปัจจุบัน มาตรา 272 อำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และมาตรา 279 ที่รับรองการกระทำ และนิรโทษกรรม คสช. ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไป และเมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.จัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยว่า ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ให้ส่งร่างรัฐธรรมนูญคืนแก่ สสร.เพื่อแก้ไข หาก สสร.ไม่แก้ไขให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป
ไพบูลย์ กล่าวว่า ให้คงมาตรา 269 เพื่อรักษาสิทธิ ส.ว. ให้ดำรงตำแหน่งครบตามวาระ เพราะประชาชน 15 ล้านคน ออกเสียงเห็นชอบเฉพาะมาตรานี้ ซึ่งมีผลในระยะ 5 ปีแรกเท่านั้น
นอกจากนี้เสนอให้คง มาตรา 279 ที่รับรองการกระทำและนิรโทษกรรม คสช.ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไป เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการดำเนินคดีเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบของนักการเมืองและข้าราชการที่ดำเนินการไปในสมัย คสช.