Categories
ข่าว

เปิดยันเช้า! ปกครองบุกจับผับดัง เจอนักเที่ยวฉี่ม่วง ยาเสพติด บารากู่ สั่งปิด5ปี

เมื่อเวลา 03.00 น วันที่​ 10​ ธันวาคม เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เข้าตรวจสอบ​อินซานิตี้​ ไนท์คลับ​ ​ภายในซอยสุขุมวิท11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา หลังได้รับเรื่องร้องเรียน​ว่าสถานบันเทิงดังกล่าวเปิดเกินเวลาโดยเปิดยันตี 4 ทุกคืน เป็นเหตุให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะการจราจร​ในช่วงสถานบันเทิงเลิก​

โดยก่อนเข้าจับกุมได้ทำการส่งสายลับ เข้าสืบสวนที่ร้าน Insanity Nighclub เป็นเวลาหลายครั้ง พบว่า มีลักษณะเป็นผับ ที่ไม่ได้เข้มงวดกวดขัน และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 โดยเปิดให้บริการถึงตี 04.30 น. ซึ่งเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ยังพบเห็นว่ามีการเสพยาเสพติดภายในร้าน และทางร้านมีการให้บริการบารากู่อีกด้วย เมื่อได้ข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนจึงปฏิบัติการจู่โจมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที

จากการตรวจสอบพบนักเที่ยวกว่า 150 คน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ​ กำลังดื่มกินและเต้นรำอย่างสนุกสนาน​ เมื่อรู้ว่าทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ​ ต่างตกใจและพยายามออกจากร้าน​ เจ้าหน้าที่จึงเปิดไฟและตรวจสอบ​ พบยาเสพติดตกในห้องน้ำ มีลักษณะเป็นผงสีขาว คาดว่าเป็นเคตามีน และยังพบว่าทางร้านมีการให้บริการ บารากู่ โดยพบมีเตาบารากู่ และตัวยาบารากู่ จำนวนมาก และจากการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย พบนักเที่ยวฉี่ม่วงจำนวนหนึ่ง​

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบ สถานบันเทิงแห่งนี้ พบว่า เป็นสถานบริการที่ไม่ได้รับใบอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด เปิดให้บริการถึงยันตี 4 ทุกคืน และมิได้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไข หรือมีมาตรการในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด เช่น ไม่ได้มีการเว้นระยะห่างระหว่างนักเที่ยว มีการเต้นเบียดเสียดใกล้ชิดกัน หรือไม่ได้มีการติดตั้งฉากกั้นระหว่างโต๊ะ เพื่อเป็นการป้องกัน ซึ่งเป็นที่น่าเป็นห่วงว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งมีผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น จึงเป็นที่น่ากังวลว่าที่แห่งนี้อาจจะเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ได้ และยังพบว่ามีการปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดภายในผับอีกด้วย ซึ่งมีโทษทางอาญา และฝ่าฝืนคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 22/28558 มีโทษทางปกครองสั่งปิดสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนเป็นเวลา 5 ปี