Categories
ข่าว

โค้งสุดท้าย!! “ธนาธร-ปิยบุตร” ปราศรัยใหญ่ร้อยเอ็ด ยัน “สถาพร” เบอร์ 2 ตัวจริงฝ่ายประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมด้วย ปิยบุตร แสงกนกกุล เดินทางไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อร่วมรณรงค์หาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยให้กับ “สถาพร ว่องสัธนพงษ์” เบอร์ 2 ผู้สมัครนายก อบจ. ร้อยเอ็ด

ธนาธร กล่าวว่า เราตั้งใจที่จะปฏิรูประบบรัฐราชการรวมศูนย์จากข้างล่างขึ้นข้างบน วันนี้ทั้งอำนาจและงบประมาณถูกรวมศูนย์อยู่ที่รัฐส่วนกลาง ประชาชนจะทำอะไร ก็ต้องส่งเรื่องไปที่กรุงเทพฯ กว่าจะได้งบประมาณ กว่าจะได้โครงการการแต่ละอย่างนั้นใช้เวลานานกว่าจะได้รับการอนุมัติ เมื่ออำนาจและงบประมาณอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำให้อำนาจและงบประมาณอยู่ห่างไกลจากประชาชน

“ผมอยากเปรียบเทียบงบประมาณคือไอศกรีมกว่าที่ไอศกรีมจะถูกส่งมาจากกรุงเทพฯ ไปถึงมือประชาชนนั้นใช้เวลายาวนานมากเพราะมันไกล ระหว่างทางมีนายหน้าเลียกันคนละทีสองที กว่าจะมาถึงพี่น้องประชาชนไอศกรีมมันหมดเหลือแต่แท่ง แต่สิ่งที่เราจะทำในการส่งผู้สมัครท้าชิงนายก อบจ. ก็เพราะว่า เราต้องการส่งเสียงจากข้างล่างขึ้นข้างบน ว่าเราไม่เอาอีกแล้วกับรัฐที่กดทับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทุกวันนี้มีไอเดียคิดแก้ปัญหาเรื่องอะไรออกก็ต้องไปของบประมาณขอใบอนุญาตจากส่วนกลางที่กรุงเทพฯ มันทำให้ความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ศักยภาพในการพัฒนาประเทศทั้งประเทศ เกิดคอขวดอยู่ในรัฐราชการ ถ้าเราปฏิรูปรัฐราชการไม่ได้ ถ้าเรากระจายอำนาจไม่ได้ ไม่มีทางที่ประเทศนี้จะพัฒนาต่อไปได้ ไม่มีทางที่จะลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบทได้เลย” ธนาธร กล่าว

ด้าน ปิยบุตร กล่าวว่า ขอให้ความกระจ่างว่าสถาพรเป็นบุคคลที่เข้ามาอยู่กับพรรคอนาคตใหม่ตั้งแต่แรก ตั้งแต่ก่อนจดจัดตั้งเป็นพรรคเสียด้วยซ้ำ มีความคิดจุดยืนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เอาด้วยกับการสืบทอดอำนาจ ไม่เอาด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแต่ต้น และมั่นคงแน่วแน่ในเส้นทางนี้มาตลอด ร่วมงานกับเรามาตลอดในสมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นคณะก้าวหน้า เมื่อเราเปิดรับสมัครผู้สมัครลงนายก อบจ. สถาพรก็เข้ามาสมัคร เข้ากระบวนการคัดกรอง เราสัมภาษณ์ เราสำรวจตรวจสอบจนชัดเจนแล้ว จึงรับรองให้เป็นผู้สมัครของเรา

“นี่คือสิ่งที่คณะก้าวหน้ายืนยันมาตลอดว่าผู้สมัครของเราต้องไม่ใช่แค่เป็นคนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์เท่านั้น แต่ต้องมีจุดยืนอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตยด้วย เก่งมาจากไหนแต่ถ้าไม่มีจุดยืนประชาธิปไตย ไปจูบปากร่วมมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ ไปสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ เราไม่เอามาเป็นผู้สมัครของคณะก้าวหน้าเด็ดขาด และสำหรับจังหวัดร้อยเอ็ด อยู่แถวหน้าของการต่อสู้ในฝ่ายประชาธิปไตยมาโดยตลอด และเลือกพรรคการเมืองพรรคหนึ่งมาโดยตลอดทั้งในระดับชาติและในระดับท้องถิ่น หลายท่านที่ได้เคยร่วมงานเจอะเจอกันในสภาก็ให้ความเคารพนับถือกันมาตลอด แต่อย่างไรตนต้องพูดต้องขอกันตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อมว่า อยากขอโอกาสจากพี่น้องชาวร้อยเอ็ดสักครั้ง อยากให้พี่น้องช่วยกันกาคนใหม่ กาพวกเราหน้าใหม่ๆ เข้าไปทำงานให้คนร้อยเอ็ดบ้าง และถ้าพี่น้องจะกังวลว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยหรือไม่ หน้าอย่างตน หน้าอย่างธนาธร หน้าอย่างพวกเราการันตีอยู่แล้วว่าอยู่ตรงข้ามกับประยุทธ์และ คสช. ที่พวกเราโดนคดีตัดสิทธิอย่างทุกวันนี้ก็เพราะเราอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย” ปิยบุตร กล่าว