ชาวบ้านที่จังหวัดร้อยเอ็ด ร้องเรียนถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกขายเครื่องกรองน้ำ มีจดหมายแจ้งว่าได้รับสิทธิ์จับสลากลุ้นรางวัลใหญ่ เมื่อผู้เสียหายจับรางวัลได้เครื่องใช้ไฟฟ้า กลับบังคับให้จ่ายเงินจำนวน 29,900 บาท นางทองม้วน สารบรรณ อายุ 47 ปี ชาวอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ได้มีจดหมายส่งมาจากศูนย์บริการเสลภูมิวอเตอร์ช็อปแอนด์เซอร์วิส ตั้งอยู่ที่ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด แจ้งว่าตนเป็นผู้โชคดีได้รับของสมนาคุณฟรี ให้ไปติดต่อรับที่ร้านดังกล่าว
ในช่วงเช้าของวันที่ 16 ต.ค.62 ตนจึงได้เดินทางไปที่ร้านขายเครื่องกรองน้ำ พอไปรับของสนาคุณกลับถูกพนักงานขายโน้มน้าวให้จับสลากพิเศษ เพื่อชิงรางวัลใหญ่ ตนจึงจับสลากได้สลากได้รับเครื่องกรองน้ำแร่ มูลค่า 34,900 บาท แต่มีส่วนลดพิเศษให้ 5,000 บาท ราคาจึงเหลือเพียง 29,900 บาท และมีของแถมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าให้อีกหลายรายการ คือ ทีวีจอแบนขนาด 21 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า 1 เครื่อง เตารีดไฟฟ้า 1 เครื่อง หม้อหุงข้าว จำนวน 1 เครื่อง และนาฬิกาแขวนผนัง 1 เรือน พนักงานขายยังแจ้งอีกว่ามีค่าตอบแทนให้ตน ที่เป็นพรีเซนเตอร์เครื่องกรองน้ำแร่ เป็นเงินสดจำนวน 60,000 บาท และทองคำหนัก 1 บาท ให้มาติดต่อขอรับที่ร้าน ภายในวันที่ 10 พ.ย.62 ซึ่งจะเป็นวันเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำ มีคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังและมีกิจกรรมแจกของรางวัลอีกมากมาย ตนจึงได้จ่ายเงินสดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 29,900 บาท โดยทางร้านได้ออกใบเสร็จพร้อมระบุรายละเอียดตามข้อตกลงอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นพนักงานขายเป็นหญิง รูปร่างอ้วน ไว้ผมยาว สวมเสื้อคอปกแขนสั้น สีม่วง กางเกงขายาวสีดำ อายุประมาณ 35-45 ปี ได้ขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน บต 5032 กาฬสินธุ์ ขนย้ายเครื่องกรองน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แถมมาส่งตนที่บ้าน พร้อมกับถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานอีกอ้วย พนักงานขาย แต่มีความปกติเกิดขึ้นคือพนักงานขายไม่ได้แนะนำวิธีใช้เครื่องกรองน้ำ มีท่าทีลุกลี้ลุกลน พร้อมกับบอกตนว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับใครเพราะเป็นสิทธิพเศษสำหรับตนเท่านั้น ก่อนพนักงานขายจะขับรถออกจากบ้านไป
หลังจากนั้น น.ส.ผุสดี แสงปาก อายุ 23 ปี ลูกสาวผู้เสียหาย ได้เดินทางกลับมาถึงบ้าน จึงได้แกะกล่องเพื่อเปิดดูสินค้า พบว่าเป็นกระติกน้ำ ไม่ใช่เครื่องกรองน้ำแร่ตามที่ได้โฆษณาไว้แต่อย่างใด และได้โทรตรวจสอบราคากับร้านขายเครื่องกรองน้ำแห่งหนึ่ง ทางร้านแจ้งว่าสินค้าชิ้นนี้ มีมูลค่า 1,900 บาท ลูกสาวจึงตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แถมมา พบว่ามูลค่าประมาณ 7,000 บาท รวมราคาสินค้าทั้งสิ้น 9,000 บาท ลูกสาวตนจึงพยายามติดต่อกลับไปยังร้านสินค้าดังกล่าว พนักงานขายแจ้งกับลูกสาวของตนว่า ถ้าไม่พอใจในสินค้าให้นำมาคืนได้พรุ่งนี้
เช้ารุ่งขึ้นของวันที่ 17 ต.ค. ตนและลูกสาวได้เดินทางไปร้านขายเครื่องกรองน้ำ ถึงร้านจึงพบว่าร้านถูกปิด และถูกขนย้ายสินค้าภายในร้านออกไปหมดแล้ว ตนจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อแต่พบว่าปิดเครื่อง นางทองม้วน ยังบอกอีกว่า พฤติการณ์ของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ถือเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านที่มีฐานะยากจน ให้เดือดร้อนหนักไปอีก เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไป กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท ก็ยากลำบากแล้ว กลับมาถูกหลอกลวงอีก ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายได้นำภาพถ่ายรถกระบะของกลุ่มมิจฉาชีพ ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เสลภูมิ เพื่อให้ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับใครอีก