เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 20 มี.ค.64 เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์ เข้ามาเพิ่มเติมภายในบริเวณท้องสนามหลวงเพื่อวางเป็นแนวกั้น ในการเตรียมแผนการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม REDEM ที่นัดหมายกันในเวลา 18.00 น.และจะยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น.
สำหรับการวางตู่คอนเทนเนอร์ในครั้งนี้ ได้จัดให้มีการวางเรียงแนวยาวตรง เกาะกลางท้องสนามหลวง และ ตั้งสูง 2 ชั้น พร้อมทั้งวางต่อเนื่องไปยังฝั่งถนนหน้าพระธาตุ รวมถึงฝั่งทิศใต้ของท้องสนามหลวง ใกล้กับเขตพระราชฐาน เป็นลักษณะของการปิดกั้นพื้นที่ฝั่งสนามหญ้าไว้ และนำแนวรั้วลวดหนามหีบเพลงมาเสริม ไว้ที่หน้าตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงหลังคอนเทนเนอร์ จนถึงฝั่งกลางสนามหญ้า เป็นระยะด้วย
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง และกล้องวงจรปิด เพิ่มเติม
ส่วนเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ได้ซ่อมแซมประตูรั้วของท้องสนามหลวง ก่อนที่จะปิดประตูทางเข้าออกทุกทาง คาดว่าจากนี้จะไม่อนุญาตให้เข้ามาใช้พื้นที่ภายในท้องสนามหลวงแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การชุมนุมประท้วงของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากที่มีประกาศห้ามชุมนุมในลักษณะหนึ่งลักษณะใดที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคในพื้นที่ กทม. ประกอบกับ พ.ร.ก.โรคติดต่อ ซึ่งการชุมนุมในเขตกรุงเทพฯ ถือว่าผิดกฎหมาย ฝากเตือนผู้ชุมนุมที่เคยประกาศว่าจะมีการแจกหนังสือบางอย่างที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย ทั้งอาจยังเป็นการหมิ่นประมาทผู้อื่น หรือมีความผิดตาม ม.112 ซึ่งผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา ผู้จำหน่าย ผู้จ่ายแจก หรือผู้เกี่ยวข้อง ถือเป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกันทั้งสิ้น
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามสถานการณ์และการข่าว พร้อมจัดตำรวจจราจรในการอำนวยความสะดวกอื่นๆ ด้วย ตั้งแต่มีการชุมนุมมาได้มีการจับกุมและควบคุมตัวผู้กระทำผิดเป็นระยะรวม 179 คดี ส่งห้องพนักงานอัยการ 129 คดี และที่เหลือกำลังสืบสวนสอบสวน
สำหรับมาตรการการดูแลพื้นที่สนามหลวงนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรุงเทพฯ ได้ส่งกองกำลังเสริมไปดูแลความเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจำนวนเจ้าหน้าที่นั้นไม่สำคัญ แต่ยืนยันว่าเพียงพอ ส่วนการตั้งแนวระวางป้องกันพื้นที่นั้น เพื่อเป็นการดูแลสถานที่สำคัญของชาติ เช่น ศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว ฯลฯ
