Categories
ข่าว

จัดหาเท่าที่จำเป็น!! รมช.กลาโหม แจงกลางสภา ซื้ออาวุธใหม่แค่ 1 ใน 3 ลั่น! กองทัพต้องพร้อม ปกป้องผลประโยชน์ชาติ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 31 พ.ค. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงว่า ในส่วนของงบประมาณกระทรวงกลาโหมที่สมาชิกให้ข้อเสนอแนะ ขอเรียนว่าตั้งแต่ปี 63-65 ได้รับการจัดสรรงบประมาณลดลง โดยในปี 63 เราได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 231,745 ล้านบาท โดยเราส่งคืนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเยียวยาของโควิด จำนวน 18,022 ล้านบาท ส่วนปี 64 ได้รับการจัดสรรงบจำนวน 214,530 ล้านบาท ลดลง 17,215 ล้านบาท และในปี 65 ได้รับจัดสรรงบจำนวน 203,281 ล้านบาท ลดลงอีก 11,249 ล้านบาท

“งบส่วนใหญ่ลดลงทุกรายการทั้งในส่วนขอแผนงานพื้นฐาน แผนงานยุทธศาสตร์ แผนงานบูรณาการ มีเพียงแผนงานบุคลากรภาครัฐที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องของสิทธิกำลังพลเรื่องบำเหน็จประจำปี โดยสัดส่วนในปีงบ 65 ยืนยันว่าทุกกองทัพถูกปรับลดงบประมาณลงหมด อาทิ สำนักงานปลัดกลาโหม ปรับลดลง 448 ล้านบาท กองบัญชาการกองทัพไทยลดลง 1,948 ล้านบาท กองทัพบกลดลง 6,603 ล้านบาท กองทัพเรือลดลง 1,129 ล้านบาท กองทัพอากาศลดลง 688 ล้านบาท”

“กองทัพมีหน้าที่เตรียมกำลังให้พร้อมรับสถานการณ์ ท่านอาจจะมองว่าจะไปรบกับใครอย่างไร แต่ขอเรียนว่ากองทัพต้องประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญเชื่อมต่อมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย มีเขตทางทะเลทั้งอ่าวไทยและอันดามัน 3.2 แสนตารางกิโลเมตร อาณาเขตทางทะเลมีความยาว 3,193 ตารางกิโลเมตร ผลประโยชน์ทางทะเลปีละ 24 ล้านล้านบาท ซึ่งพื้นที่บางส่วนยังอ้างสิทธิทับกันอยู่ สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ก็ยังมีความขัดแย้ง”

“เราต้องเตรียมการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ จำเป็นต้องเตรียมกำลังพลไว้บางส่วน แต่มิได้เตรียมกำลังไว้ทั้งหมด ส่วนยุทโธปกรณ์ใหม่เน้นจัดหาเพียง 1 ใน 3 ส่วนที่เหลือเน้นซ่อมบำรุงเพื่อยืดอายุการใช้งาน ช่วยลดงบประมาณจัดหาใหม่ ซึ่งทุกกองทัพเข้าใจภาวะงบประมาณของประเทศ ส่วนที่ล้าสมัยเรามีแนวคิดนำไปแลกเปลี่ยนกับยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อนำมาใช้ทดแทน และจัดหาเท่าที่จำเป็นเท่านั้นเพื่อให้กองทัพพร้อมรองรับภารกิจและสถานการณ์” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว