เมื่อเวลา 23.25 น. วันที่ 2 มิ.ย. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า โครงการต่างๆ ไม่ว่าจะโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ที่รัฐบาลได้ออกมานั้น เป็นการขับเคลื่อนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า แม่ค้า ให้ได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ ส่วนที่ท่านพูดถึงโครงการจำนำข้าวที่บอกว่าเป็นพับบลิกโพลิซีที่ดีนั้น แต่ทำไมมีคดีทุจริตในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถูกหรือไม่ มีคนถูกดำเนินคดีมีความผิดหนีคดี ตนไม่อยากจะพูดคำเหล่านี้อีกพูดแค่นี้ก็พอ ตนมีความระมัดระวังอยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องหนี้สาธารณะนั้น การระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ท่านรู้ ตนก็รู้ เพราะตนทำงานกับคนเป็นร้อยหลายคณะ เอาเหตุผลเอาสถานการณ์มาพิจารณาอย่างถ่องแท้ทุกเรื่องตั้งแต่โควิดเริ่มแพร่ระบาด รัฐบาลได้จัดสรรเงินแก้ปัญหาโควิด 8.7 หมื่นล้านบาท ส่วนเรื่องค่าตอบแทน ตนไม่เคยดึงเอาไว้ ให้ถามรองนายกฯ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การกู้เงินของรัฐบาลยังอยู่ภายใต้กฎหมายวินัยการเงิน การคลัง ไม่เกิน 60% ของจีดีพี ขณะที่หนี้สาธารณะมีตลอด ซึ่งเพิ่มขึ้นตามการลงทุนเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น เงินกู้ที่รัฐบาลกู้มาตั้งแต่ปี 57 ชำระไปแล้ว 2.53 ล้านล้านบาท ตนอยากให้ท่านมองกลับว่าเงินกู้ต่างๆ รัฐบาลมีการลงทุนอะไรไปบ้าง ใช้กับโครงสร้างพื้นฐาน 2.1 ล้านล้านบาท รวม 162 โครงการ ตนอยากขอให้เปรียบเทียบดูอีกครั้ง
ทั้งนี้ สถานะทางการเงินของไทย มีไม่กี่ประเทศในโลกที่ได้รับการประเมินสถานะการเงินการคลังเท่าเดิม เมื่อเทียบกับสถานการณ์โลก มีแต่คนในประเทศที่ปรามาสประเทศตัวเองตลอด ส่วนที่ไทยไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์นั้น เพราะโครงการโคแวกซ์เป็นโครงการที่ต้องร่วมลงทุน แม้มีเจตนาที่จะจัดหาวัคซีนให้ประเทศยากจน ไทยก็ได้พยายามเจรจากับโคแวกซ์มาตลอด แต่เราไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่จะรับวัคซีนฟรี เพราะไทยอยู่ในฐานะปานกลาง หากเข้าร่วมโครงการต้องซื้อวัคซีนที่แพงกว่า และจะได้ยี่ห้อที่โคแวกซ์เลือกเท่านั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของไทย
“ในนามของรัฐบาล ผมขอขอบคุณท่านประธานฯ และสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน ที่ได้กรุณาให้ความคิดเห็นข้อสังเกตต่างๆ ต่อร่าง พ.ร.บ.งบ 65 ที่รัฐบาลเสนอ ผมขอเรียนว่าการจัดทำงบ 65 แม้จะต้องดำเนินการภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และภายใต้วงเงินงบประมาณรายจ่ายที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับประชาชนและผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ โดยมีการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ให้มีความต่อเนื่องจากงบประมาณปี 64 เพื่อจะขับเคลื่อนประเทศของเราให้ก้าวพ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รวมทั้งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตได้อย่างปกติโดยเร็ว”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การที่จะคาดการณ์เศรษฐกิจปี 65 จะดีหรือเลวจะต้องดูการศึกษาของต่างประเทศ ขององค์กรต่างๆ เขาคิดเหมือนเราว่าปี 65 สถานการณ์เศรษฐกิจโลกน่าจะดีขึ้น ซึ่งเราตั้งความหวังไว้เช่นเดียวกัน ถ้ามีปัญหาเราค่อยแก้ไข และดำเนินการที่จะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากไปกว่านี้ รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่
“สำหรับความเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะต่างๆ ที่สมาชิกทุกท่านได้อธิบายไว้ ผมขอฝากให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ ที่สภานี้จะได้แต่งตั้งขึ้นนำไปใช้ประกอบการพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.งบ 65 ให้เป็นไปด้วยความรอบคอบยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนตามที่มุ่งหวังไว้ทุกประการ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว