วันที่ 23 มิ.ย.64 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขอฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่อยากจะให้มีการชุมนุมเกิดขึ้น เพราะเป็นการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวมีความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ยังอยู่หรือหากจะชุมนุมก็ควรจะมีการเว้นระยะห่าง ส่วนการจะเคลื่อนตัวมาจากสะพานผ่านฟ้าเพื่อมายังทำเนียบรัฐบาลนั้น จะมีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างไรนั้น
พลเอกประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจะเป็นผู้ดำเนินการแต่ส่วนตัวมีความกังวล การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหากจะมีการชุมนุมก็ควรจะเป็นช่วงที่การแพร่ระบาดลดลงไปกว่านี้เสียก่อน เพราะรัฐบาลเป็นห่วงเรื่องโควิด 19 มาก อีกทั้งสถานการณ์ขณะนี้ยังเป็นช่วงที่รัฐบาลยังต้องทำงาน หลังจากตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนแกนนำที่มาชุมนุมมีคดีติดตัวด้วยนั้นจะดำเนินการอย่างไร พลเอกประวิตรกล่าวว่า ก็ต้องดูว่าทำตามกฏหมายถูกต้องตามกฏหมายหรือเปล่า
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะในส่วนของร่างพรรคพลังประชารัฐที่จะมีการแก้ไขมาตรา 144 และ 158 พลเอกประวิตรยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขทั้งสองมาตราอย่างแน่นอน ซึ่งนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ฝ่ายกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐ ได้ชี้แจงไปแล้ว และรับที่จะมีการปรับร่างที่เสนอไป ส่วนเรื่องการแก้ไขระบบเลือกตั้งเป็นบัตรสองใบนั้นพลเอกประวิตรระบุว่าเป็นเรื่องของพรรคที่เห็นชอบและต้องการให้
เป็นแบบนั้น
ส่วนอนาคตทางการเมืองเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย จะจับมือทำงานร่วมกัน พลเอกประวิตร ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่รู้สถานการณ์ข้างหน้า รวมถึงมยังไม่รู้ด้วยว่าจะเป็นพรรคอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งสมัยหน้าด้วยหรือไม่ ซึ่งการที่ได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคที่ผ่านมาก็มีความมุ่งหวังที่จะให้พรรคพลังประชารัฐมีความเข้มแข็ง ไม่มีภาพลักษณ์ของความแตกแยก แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเพื่อให้ประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง ส่วนจะได้เป็นพรรคอันดับ 1 หรือจัดตั้งรัฐบาลเพียงพรรคการเมืองเดียวหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต ที่ยังไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ เพราะยังไม่ได้มีการเลือกตั้งในเร็ววันนี้รัฐบาลยังคงต้องอยู่อีก2 ปี