เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม 2564 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จังหวัดร้อยเอ็ดในตัวเมืองร้อยเอ็ดประชาชนชาวร้อยเอ็ดที่สัญจรผ่านไปมาตามถนนเทวาภิบาล อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด รวมทั้งประชาชนต่างจังหวัดที่ขับรถผ่านเส้นทาง ร้อยเอ็ด-ยโสธร ต้องหยุดรถหรือขับขี่ยวดยานพาหนะช้าๆเพื่อดูป้ายคัดเอาว์ขนาดใหญ่ กว้าง 2 .50 เมตร ยาว 3.50 เมตร ปักอยู่หน้าสำนักงานทนายความ วราวงษ์ พันธุ์ศิลา อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคเพื่อไทย
โดยมีใจความในป้ายตัวหนังสือสีแดงขนาดใหญ่เขียนว่า ”ลุงตู่อย่าอยู่เลย“ ส่วนข้างล่างตัวหนังสือสีน้ำเงินมีข้อความว่า “ป่วยวันละหมื่น ตายวันละร้อย ศบค.ล้มเหลว ปล่อยให้แพทย์บริหารดีกว่า เปลี่ยนคนติดต่อซื้อ Vaccine เถอะครับ “
สอบถามนายวราวงษ์ พันธุ์ศิลา อดีต สส.พรรคเพื่อไทย เล่าว่าสาเหตุที่ตนได้ขึ้นไปไล่นายกเป็นครั้งที่สองเนื่องจากในครั้งแรก ตนได้แจ้งว่าหากรัฐบาลไม่มีการบริหารจัดการวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ได้อย่างมีคุณภาพ ตนจะขึ้นไปไล่นายกรัฐมนตรีอีก ซึ่งที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น จนมีผู้ติดเชื้อวันลพ 10,000 ราย และเสียชีวิตวันละ 100 ราย ทำให้สภาพเศรษฐกิจของไทยย่ำแย่ ประชาชนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
ตนจึงมีแนวความคิดว่า ศบค.บริหารจัดการ การป้องกันโรคและการจัดหาวัคซีนได้อย่างล้มเหลว จึงควรให้อำนาจกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ได้เข้ามามีส่วนในการบริหารจัดการหาวัคซีนหลัก ที่เป็นแบบเอ็มอาร์เอ็นเอ เพื่อนำมาฉีดให้กับบุคคลด่านหน้าและประชาชนชาวไทย จึงจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้ ตนจึงคิดว่านายกรัฐมนตรีควรจะลาออกจากตำแหน่ง และมีการสรรหานายกรัฐธรรมมนตรีคนใหม่เข้ามาแทน ตามกฏหมายรัฐธรรมนูญของไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ได้อย่างทันท่วงที
