จากกรณีที่มีผู้ไปพบศ พของ นายเลื่อน แก้ววงศรี อายุ 49 ปี อาชีพเก็บของเก่าถูกฆ า ตกรรมอยู่บริเวณกองขยะด้านหลังวัดราษฎรอุทิศ เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ในสภาพตามร่างกายมีร่องรอยฟ กช้ำโดยเฉพาะที่หน้าอกมีรอยยุบคล้ายถูกทุบด้วยของแข็ง และที่ศีรษะถูกฟั นด้วยของมีคมเป็นแผลเหวอะหวะ ห่างจากจุดที่พบศ พพบมีดพร้า 1 ด้าม, ท่อนไม้อีก 1 ท่อน และไฟฉายแบบคาดศีรษะ ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (27 ธ.ค.) ชุดสืบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนทราบว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านแล้วผู้เสี ยชีวิตได้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับชายชื่อเล่นว่า “สร้อย“ อายุ 21 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 19 ตำบลรอบเมือง เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบชายคนดังกล่าว ทราบชื่อจริงว่า นายวิระชัย พลเยี่ยม อาศัยอยู่ที่บ้าน ในสภาพสวมกางเกงยีน มีคราบเลือดติดอยู่ จากการสอบถามให้การรับสารภาพว่า ตนเอง ได้ร่วมมือกับ นายเผ่ากิตติ จำปาขันธ์ อายุ 35 ปี ทำร้ ายร่างกาย นายเลื่อน แก้ววงศรี เมื่อคืนวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา จนเสี ย ชีวิตจริง ปมเหตุเนื่องจากมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน
ต่อมาตำรวจติดตามจับกุมตัว นายเผ่ากิตติ ได้ขณะปั่นจักรยานคันที่ใช้ก่อเหตุอยู่ในซอยข้างวัดราษฎรอุทิศ ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนให้การยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุจริง โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ปั่นจักรยาน มาจากซอยข้างปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนปัทมานนท์ กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุได้พบกับผู้เสี ยชีวิต เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนผู้ต้องหา 2 คน จะเข้าไปทำร้ายผู้เสี ยชีวิต ซึ่งยืนถือมีดพร้าไว้ในมือ ระหว่างยื้อแย่งมีดพร้า ผู้ เสียชีวิตเสียหลักล้มคว่ำลง จึงถูกกลุ่มผู้ต้องหาใช้ท่อนไม้ตีเข้าที่ศีรษะและตามร่างกายหลายแห่ง จากนั้นได้ปั่นจักรยานหลบหนีไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมมือกันฆ่ าผู้อื่น พร้อมกับนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นลานรับซื้อของเก่าของผู้เสี ยชีวิต ซึ่งอยู่ด้านหลังวัดราษฎรอุทิศ ท่ามกลางชาวบ้านและญาติของผู้เสียชีวิ ตที่มารอดู และได้เรียกร้องให้คนร้ายถูกดำเนินคดีและรับโทษสูงสุด พร้อมกันนี้ชาวบ้านได้กล่าวชื่นชมการทำงานของตำรวจที่จับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว