Categories
ข่าว

แก้ไขแล้ว!! รพ.ภูมิพลฯ ยอมรับ รายชื่อซ้ำซ้อนตกหล่น Google Form ผิดพลาด ยืนยันไม่มีฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ให้ วีไอพี

จากกรณีที่มีตัวแทนบุคลากรด่านหน้าทางการแพทย์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กว่า 10 คน ออกมาร้องเรียน พร้อมกับเปิดเผยว่าพบข้อพิรุธในการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ของโรงพยาบาลหลายอย่าง โดยเฉพาะเอกสารรายชื่อผู้ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ของ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ที่ไม่ได้มีแค่บุคลากรด่านหน้าเท่านั้น ทำให้รายชื่อบุคลากรด่านหน้าแพทย์ ซึ่งเป็นแพทย์และพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยตรงประมาณ 100-200 คน ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์บูสเตอร์โดสเข็ม 3 โดยวานนี้ (15 ส.ค.64) พล.อ.ท.ธนวิตต สกุลแสงประภา เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ ได้เรียกตัวแทนบุคลากรด่านหน้าทางการแพทย์ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช มาพูดคุยทำความเข้าใจไปเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด วันที่ 16 ส.ค.64 พล.อ.ท.ธนวิตต สกุลแสงประภา เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ แถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า รพ.ภูมิพลฯ ที่ปฏิบัติภารกิจดูแลผู้ป่วยตามภารกิจของกองทัพอากาศ โดยได้ดูแล 1.รพ.ภูมิพลฯ 2.รพ.ทหารอากาศ (สีกัน) 3.รพ.จันทรุเบกษา 4.รพ.สนามวัฒนาแฟคตอรี่ และ รพ.สนามที่ ทอ.รับผิดชอบ ตนในฐานะตัวแทนกรมการแพทย์ทหารอากาศต้องขออภัย และขอรับความผิดชอบในความบกพร่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ระหว่างผู้บริหารและบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า จนทำให้เกิดความไม่พอใจ ยืนยันและขอให้ความมั่นใจกับบุคลากรด่านหน้าของโรงพยาบาลว่า ภายในสัปดาห์นี้จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สาม 100% จากที่ได้รับการจัดสรรมาจากกรมควบคุมโรค 3,700 เข็ม ซึ่งมีบุคลากรอยู่ประมาณ 2,000 กว่าคน ส่วนวัคซีนที่เหลือจะนำไปฉีดให้กับบุคลากรด่านสองและด่านสามของรพ.ต่อไป

“เรื่องวัคซีนในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้องดูแลลูกน้อง หากลูกน้องยังไม่ได้รับก็เป็นไปไม่ได้ที่จะนำวัคซีนตรงนี้ไปฉีดให้กับกลุ่มวีไอพี ถ้ามีคนไปทำแบบนั้นก็คงโง่เต็มทน และไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องไปให้วัคซีนคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่ผ่านมาก็ไม่มีผู้ใหญ่ในกองทัพอากาศ โทรศัพท์มาขอวัคซีนไฟเซอร์แต่อย่างใด ปีนี้โรงพยาบาลภูมิพลฯ ครบรอบ 72 ปี เราทำงานเพื่อพ่อหลวงและประชาชนมายาวนาน แต่เมื่อมีเรื่องที่ไม่เข้าใจเผยแพร่ไปในโซเชียลฯ ทำให้ชื่อเสียงมัวหมอง ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ใส่กันเต็มเหนียวทำให้เราเสียใจ เพราะองค์กรของเราก็มีบุคลากรที่ดีทำงานให้กับองค์กร อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้โยงเป็นเรื่องวัคซีนทางการเมือง เพื่อไปกระทบกับรัฐบาล จากนี้ไปเราจะไปปรับปรุงเรื่องระบบและการสื่อสารภายในองค์กรของเราให้ดีขึ้น” พล.อ.ท.ธนวิตต กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไปยื่น ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบและเรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารอากาศ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ พล.อ.ท.ธนวิตต กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของนายศรีสุวรรณไป แต่ในส่วนของตนได้เข้ามาแก้ไขปัญหา เพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างผู้บังคับบัญชา บุคลากรด่านหน้า และผู้บริหารของโรงพยาบาล ที่ผ่านมาก็ได้มีการประชุมทำความเข้าใจร่วมกันไปแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีการคาดโทษทางวินัย อย่างที่โซเชียลนำไปเผยแพร่แต่อย่างใด ตั้งแต่เกิดเรื่องได้รายงานเรื่องให้ผู้บัญชาการทหารอากาศรับทราบโดยตลอดซึ่ง ผบ.ทอ.ก็ไม่ได้สั่งการอะไรลงมาเป็นพิเศษ เพียงแต่ย้ำให้ไปแก้ไขปัญหาและทำความเข้าใจอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ พล.อ.ต.หญิงอิศรญา สุขเจริญ ผอ.รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ยืนยันว่าการจัดลำดับในการจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.ภูมิพลฯ มีความโปร่งใส โดยจะนำไปฉีดให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบสองเข็มแล้ว เพื่อที่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มสาม ทั้งนี้ ได้มีการจำแนกกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ตามลำดับความเสี่ยง ใครที่มีความเสี่ยงมาก ที่ต้องการดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดจะได้รับวัคซีนก่อน เช่น เจ้าหน้าที่กองแพทย์ประจำโรคอุบัติใหม่ หรือไอซียู ตลอดจนถึงห้องตรวจระบบทางเดินหายใจ เจ้าหน้าที่เปล่ เจ้าหน้าที่จุดคัดกรองและเจ้าหน้าที่ธุรการ ซึ่งจะครอบคลุมทั้งหมด ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเพราะเหตุใดช่างโยธา ช่างซ่อมประปา และช่างซ่อมไฟฟ้าจึงได้รับสิทธิ์ด้วยนั้น เพราะคนกลุ่มนี้อยู่ในงานกลุ่มธุรการ หากระบบสาธารณูปโภคใน รพ.เสียก็ต้องให้กลุ่มความรู้เหล่านี้เข้ามาซ่อมแซม ยืนยันว่าไม่ได้ให้วัคซีนล่าช้า

“ส่วนรายชื่อที่มีความซ้ำซ้อนและหลุดออกไปทางโซเชียลมีเดียนั้น เป็นรายชื่อที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ ต้องไปดูว่าข้อมูลเหล่านี้หลุดออกไปได้อย่างไร รวมถึงจำนวนวัคซีนเป็นการทยอยเข้ามาในช่วงแรก จึงไม่สามารถแจ้งไปยังบุคลากรด่านหน้าได้ว่าจะได้รับวัคซีนในวันไหน จึงอาจทำให้เกิดความเครียดและเกิดความไม่พอใจ จากนี้จะต้องทบทวนระบบใหม่ แต่ขอให้มั่นใจว่า ภายใน 3 วันนี้ เราจะฉีดวัคซีนไฟเซอร์บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าให้ครบทุกคน ยืนยันว่าไม่ได้มีการคาดโทษกับบุคคลที่นำข้อมูลมาเปิดเผย

ทั้งนี้รายชื่อที่เกิดความซ้ำซ้อน เพราะมาจากการใช้ระบบ Google ฟอร์ม ซึ่งบุคลากรที่ลงทะเบียน อาจไม่แน่ใจว่าใส่ชื่อตนเองไปแล้วหรือไม่ ทำให้ใส่เพิ่มไปอีก ในขณะเดียวกันหน่วยงานต้นสังกัดก็ส่งชื่อมาด้วยอีกทางหนึ่ง จึงทำให้เกิดรายชื่อซ้ำซ้อน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยึดตามเลขบัตรประชาชนเป็นหลัก ส่วนรายชื่อที่มีข้อสังเกตว่า ทำไมมีคำขึ้นต้นด้วย นาย นาง และนางสาว ทั้งที่บุคลากรเหล่านั้นมียศเป็นทหาร เนื่องจากเป็นการลงทะเบียนผ่านบัตรประชาชนจึงทำให้ไม่มียศนำหน้าชื่อ” พล.อ.ต.หญิงอิศรญา กล่าว