Categories
ข่าว

จ่อฟัน!! ร้อยเวรศรีสะเกษ ไม่รับแจ้งความ ให้สาวถูกข่ มขืนกลับบ้าน

ตำรวจรับตัวสาวบุรีรัมย์ ที่ถูกหนุ่มโฉดปลอมโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อ หลอกมากักขัง ข่มขืน มาดูตัวผู้ต้องหาที่ สภ.เบญจลักษ์ ศรีสะเกษ ผู้การฯศรีสะเกษมาดูแลเอง รับเป็นความบกพร่องของร้อยเวร ที่ไม่ยอมจับคนร้าย ซ้ำยังให้ผู้เสียหายรีบกลับบ้าน โดยมีเมียร้อยเวรให้ค่ารถไป 500 เตรียมเอาผิดทางวินัย

กรณี น.ส.บี อายุ 32 ปีชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ถูกคนร้ายทราบชื่อต่อมา คือ นายณัฐพล เผื่อแผ่ อายุ 38 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.หนองฮาง อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มหน้าตาดีคุยทางเฟซบุ๊กก่อนจะนัดให้ฝ่ายหญิงเดินทางไปหาที่จังหวัดศรีสะเกษ แล้วทำการกักขัง ชิงทรัพย์และข่มขืน ก่อนเหยื่อหนีออกมาได้แจ้งความทื่ สภ.เบญจลักษ์ แต่กลับถูกตำรวจแนะนำให้รีบหนีกลับบุรีรัมย์ ให้เหตุผลว่าไอ้นี่มันดื้อ “คดีมันเยอะ” ให้เอาชีวิตให้รอดก่อน ไม่ต้องสนใจทรัพย์สิน ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 20 ที่ สภ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สันติ เหล่า ประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ประชุมตำรวจชุดสืบสวน และชุดสอบสวน สภ.เบญจลักษ์ กรณีที่มีหญิงสาวชาว จ.บุรีรัมย์ ได้แจ้งว่าถูกหลอกมากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งเธอได้หลบหนีออกมาได้และเหมารถกลับจังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากที่มีข่าวออกไป ตำรวจทราบว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาคือนายณัฐพล เผื่อแผ่ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 397 หมู่ 2 ต.หนองฮาง อ.เบญจลักษ์ จึงไปเชิญตัวมาสอบปากคำ และตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาว่าเสพยาเสพติด นำตัวเข้าห้องควบคุมไว้ตั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา

ในวันนี้ ตำรวจได้ไปรับตัว นางสาวบี (นามสมมติ) มาจากบ้านที่ จ.บุรีรัมย์ ให้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ชุดสืบสวนได้พาไปชี้บ้านของนายณัฐพล ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ พา น.ส.บี ไปกักขัง ข่มขืนกระทำชำเรา โดย น.ส.บีให้การว่า ถูกหลอกมากักขังอยู่ที่นี่ ตั้งแต่วันที่ 12-13 ส.ค.64 จนเช้าวันที่ 14 ส.ค. จึงหนีออกมา แจ้งตำรวจที่ สภ.เบญจลักษ์ แต่ตำรวจบอกว่า ทำยังไงให้เขาหลอกเอาได้ ตนก็ยอมรับว่าตัวเองโง่ จึงถูกกระทำ ถูกข่มขืน เพราะเขาขู่ มีปืนมาขู่ กลัวตายจึงต้องยอม แต่ที่จะมาแจ้งความคือตัวเองถูกทำร้ายแต่ตำรวจให้กลับบ้านไป ซึ่งจะขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตนจะไม่ยอมความใดๆ ทั้งสิ้น

น.ส.บี ยังกล่าวด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความชะล่าใจของตนเอง ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้โดนหลอก เพราะมีการตกลงกันก่อนหน้านี้แล้วว่า “ถ้าไม่ตรงปกต่างคนต่างแยกกัน” ประกอบกับเป็นการวัดใจของทั้งสองฝ่าย แต่พอไปเจอหน้างานจริงกลับดิ้นไม่ออก ไม่มีใครมาช่วยได้ จึงอยากจะฝากเตือนคนเล่นโซเชียล ว่าทุกคนที่เห็นในโปรไฟล์ ให้ตีเป็นว่า “อาจไม่ใช่ตัวจริง” ส่วนเรื่องคดีตนจะไม่ยอมเด็ดขาด

ขณะที่นายโอ(นามสมมติ) อายุ 59 ปี พ่อของ น.ส.บี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ยอมรับ ไม่รู้ว่าลูกสาวไปทำอะไร คิดอะไรอยู่ มารู้อีกทีตอนที่ลูกสาวโทรมาว่าถูกหลอกแล้ว โดยหลังจากลูกสาวหนีกลับมาได้ คนร้ายยังใช้โทรศัพท์ของลูกสาวโทรมาหาเบอร์พ่อ ข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ ถ้าไม่ถอน จะนำภาพเปลือยของลูกสาวโพสต์บนโลกออนไลน์ จึงอยากบอกว่าสังคมปัจจุบันอยู่ยาก ไว้ใจใครยาก ร้ายแรงยิ่งกว่าโรคโควิด-19 เพราะทำร้ายกันทั้งที่เห็นตัวกันอยู่ ในเรื่องคดี ยืนยันว่าจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด ไม่มีการยอมความโดยเด็ดขาด

ด้าน พลตำรวจตรี สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังจากสอบสวนผู้เสียหายเสร็จสิ้น จะมีการนำตัวนายณัฐพล ผู้ต้องหา มาสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมกับนำหลักฐาน คือโทรศัพท์มือถือ ของทั้ง 2 ฝ่าย มาตรวจสอบข้อมูลการสนทนาย้อนหลัง จากนั้นจะสรุปสำนวนคดี แล้วขออนุมัติศาลจังหวัดกันทรลักษ์ออกหมายจับในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งไม่ใช่ภรรยาตน และทำร้ายร่างกาย

ส่วนประเด็นที่ผู้เสียหาย ระบุว่าหลังจากหนีออกมาได้ จึงมาแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.เบญจลักษ์ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ พร้อมกับบอกให้เธอรีบหนีออกจากพื้นที่ โดยมีภรรยาของร้อยเวรเป็นคนให้เงินค่ารถ 500 บาท เรื่องนี้ ยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ร้อยเวร ที่ละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยจะมีการตั้งวินัยสอบในลำดับต่อไป ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าว.