วันที่ 26 ส.ค.2564 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปกรณ์เกียรติ พงษ์ธนนิกร สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายพนม หรือ พระภิกษุพนม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี
ตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรีที่ 395/2553 ลงวันที่ 18 ส.ค.2553 ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ได้ที่หน้ากุฏิพระในวัดแห่งหนึ่ง พื้นที่ ม.3 ต.หนองกร่าง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2553 ขณะนั้นนายพนมยังอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ระหว่างนี้เกิดไปชอบพอคบหาอยู่กับ ด.ญ.เจ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เมื่อผู้ปกครองของเด็กทราบเรื่อง ก็ไม่อยากขัดใจลูก จึงให้ผู้ต้องหามาสู่ขอตามประเพณี ก่อนจะพาไปอยู่กินฉันสามีภรรยาที่ จ.ราชบุรี แต่หลังจากนั้นได้ไม่ถึงปี นายพนมเกิดความเบื่อหน่าย และบังคับให้ด.ญ.เจ ออกจากบ้าน ต้องกลายมาเป็นเด็กเร่ร่อนใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง และไม่กล้ากลับบ้านไปหาพ่อแม่
กระทั่ง มีผู้มาพบเห็นช่วยเหลือพาส่งคืนครอบครัวที่สุพรรณบุรี ทางญาติ ๆ เลยเห็นว่า เมื่อผู้ต้องหาสู่ขอเด็กไปแล้ว ตอนแรกก็รับปากว่า รักและจะเลี้ยงดูให้เป็นอย่างดี ไม่ใช่มาปล่อยให้มาเป็นแบบนี้ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุพรรณ จนมีการออกหมายจับผู้ต้องหา
ต่อมา นายพนม เมื่อรู้เรื่องว่าถูกแจ้งความเอาผิด จึงหลบหนีจากราชบุรี แล้วมาบวชเป็นพระอยู่ที่จ.กาญจนบุรี หวังหลบหนีคดีมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี กระทั่ง ถูกตามจับกุมได้ดังกล่าว จากการสอบสวน นายพนม ให้การรับสารภาพว่า เมื่อตนรู้ว่าถูกแจ้งความเพราะทอดทิ้งเมียเด็ก ก็รู้สึกผิด จึงตัดสินใจมาบวชตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน หวังลดบาปกรรมที่เคยก่อไว้ จึงนำตัวส่งสภ.เมืองสุพรรณบุรี ดำเนินคดีต่อไป