Categories
ข่าว

ปลดออก!? “บิ๊กตู่” ลั่น! “ธรรมนัส” เคยบอกเองว่าไม่เป็นรัฐมนตรี​ก็ได้

วันที่ 9 ก.ย.64 พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ นายก​รัฐมนตรี​ บอกว่าเพิ่งทราบข่าวว่ามีรัฐมนตรีลาออก พร้อมบอกว่าร.อ.ธรรมนัส เคยบอกเองว่าไม่เป็นรัฐมนตรี​ก็ได้ เป็นแค่ ส.ส.ก็สามารถทำเพื่อประชาชนได้

หลังจากนี้ก็เป็นเรื่องของพรรค ที่จะต้องไปหารือกันต่อว่าจะทำอย่างไรต่อไป พร้อมยืนยันว่า งานทุกงานไม่มีหยุดยั้ง มีคนทำงานให้อยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าจะไม่ปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนต้องปรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์​ ระบุว่าขอดูก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่ปรับใคร แม้จะมีการลาออกจากตำแหน่งแต่ตอนนี้ยังไม่มีการปรับเข้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.อ.ธรรมนัส ลาออกเอง หรือถูกปลดออก เพราะในราชกิจจาฯ ระบุ ว่าปลดออกจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์​ ตอบสั้นๆ ว่าก็ลาออก พร้อมตัดบทว่า “เอาล่ะ ยังไงเขาก็ลาออกแล้ว จะมา จะไปยังไงผมขอไม่ตอบ”

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ข้อความในราชกิจจาฯ ระบุว่า ให้สมควร ให้รัฐมนตรีพ้นออกจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ก็ผมสั่งของผม และไม่ได้แจ้งใครทั้งสิ้น เหตุผลก็เป็นเหตุผลของผม ทุกอย่างเป็นการตัดสินใจด้วยตนเอง”

ส่วนจะเป็นผลพวงมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ร้อยเอกธรรมนัส จะล้มเก้าอี้นายกฯ หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ ส่วนความพันธุ์​กับ 3 ป. จะส่งผลต่อเกมการเมืองหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ ตอบว่าจะมีเกมอะไรนักหนา

จากนั้นคุณเอกประยุทธ์เดินออกจากวงแถลงพร้อมบอกว่า ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น

ขณะที่อาคารรัฐสภา ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้แถลงข่าวการลาออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว โดยได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2564

ปฏิเสธว่า โดนบีบให้ลาออก พร้อมชี้แจงเหตุผลที่ลาออก ลงนามตั้งแต่เมื่อวานเพราะรู้สึกว่าอึดอัดใจกับการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จึงขอกลับไปอยู่จุดเดิม เป็นเพียง สส. พะเยา ขอเลือกทางเดินด้วยตัวเอง ต้องการทำการเมืองเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ใช่มารองรับหรือทำอะไรเพื่อคนบางกลุ่ม โดยจะขอต่อสู้ในเวทีการเมืองอย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้ขอกราบขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถทำตามที่เคยประกาศไว้

ทั้งนี้ ยอมรับว่า เดินไปในทิศทางเดียวกันกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า ได้ขอโทษนายกฯ แสดงว่า ปัญหาไม่จบใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ยอมรับว่า “ไม่จบ” เพราะใจของตนไม่สบายใจ เราต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เรากระทำไป ซึ่งหมายความว่า เมื่อพูดด้วยเหตุด้วยผลแล้ว มันไม่เกิดประโยชน์ วิธีการที่ดีที่สุด คือต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ส่วนจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันต่อไป ตนอาจจะไปอยู่บ้านหลังใหม่ ซึ่งบ้านหลังใหม่ที่พูดถึง อาจจะหมายถึงการสร้างเอง ส่วนจะร่วมกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ยังไม่ได้ตัดสินใจ ส่วนความสัมพันธ์กับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังเคารพรักเหมือนเดิม

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ว่าเป็นอย่างไร ร้อยเอกธรรมนัส เลือกที่จะตอบเพียงว่า ในส่วนความสัมพันธ์กับหัวหน้าพรรค ยังรักเคารพเหมือนเดิม แต่ไม่ตอบความสัมพันธ์ระหว่างพลเอกประยุทธ์และพลเอกอนุพงษ์ พร้อมระบุว่า ไม่ถึงกับแตกหัก แต่ตนเลือกทางเดินแล้ว

ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส เป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาล ลาออกเช่นนี้จะเอาพลเอกประวิตรไปด้วยหรือไม่นั้น พรรคคงอยู่เหมือนเดิม ส่วนตนจะทบทวนอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร ส่วนจะมีส.ส. ตามไปอยู่ด้วยหรือไม่ ก็ไม่สามารถตอบแทนได้

ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า การยื่นลาออกครั้งนี้ ให้เลขาฯ ยื่นไปตามระบบธุรการ และไม่เกี่ยวกับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา แต่ตนไม่ชอบ บรรยากาศที่แตกแยกกันในบ้านเมือง สังคมแตกแยก และใน ครม. ร้ายยิ่งกว่า แต่ไม่ขอพูดเพราะออกมาแล้ว ซึ่งจุดที่ตัดสินใจวันนี้ เพราะมองไม่เห็นอนาคตของบ้านเมือง ส่วนหลังจากนี้จะเกิดแรงกระเพื่อมหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่มั่นใจหากเกิด ไม่ได้มาจากตนเองแน่นอน การโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญวันพรุงนี้ (10 ก.ย.)ก็สรุปแล้วว่า พลังประชารัฐเห็นชอบเรื่องบัตร 2 ใบ

เมื่อถามย้ำว่า แนวโน้มการทำพรรคการเมือง อีกนานหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ได้เตรียมไว้หมดแล้ว ส่วนจะมี ส.ส. ของพรรคมาร่วมทำพรรคใหม่หรือไม่นั้น ตนยังไม่ได้คุยกับใคร ส่วนจะทำให้พรรคพลังประชารัฐแตกหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ไม่แน่ เพราะใจตนไปแล้ว นักเลงพอ ทำอะไรต้องรับผิดชอบ อยู่ที่ไหนก็ได้ขอให้ใจมันอยู่ แต่ถ้าใจไม่อยู่ใครก็มาบังคับไม่ได้