อิหร่าน ชักธงรบศักดิ์สิทธิ์สีแดงเหนือสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ จามคาราน เป็นครั้งแรก พร้อมประกาศสงคราม หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งโจมตีทางอากาศใส่สนามบินกรุงแบกแดดของอิรัก จนทำให้นายพลกาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง คุดส์ ของอิหร่านเสียชีวิต รวมทั้งและนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮานดิส ที่ปรึกษาของนายพลโซเลมานีและแกนนำกลุ่ม ฮาเชด อัล-ชาอาบี
วานนี้มีการชักธงสีแดงหรือธงสีเลือดซึ่งเป็นธรรมเนียมการแสดงออกถึงการเสียชีวิตหรือการหลั่งเลือดอย่างปราศจากความยุติธรรม และเพื่อเป็นการเรียกร้องให้มีการแก้แค้นให้กับผู้ที่เสียชีวิต เหนือสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ จามคาราน ในเมืองกุม เมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงเตหะรานราว 160 กิโลเมตร ขณะเดียวกันชาวอิหร่านทั่วประเทศอาลัยต่อการเสียชีวิตของนายพลโซเลมานีและโกรธแค้นสหรับฯ โดยนายพลเอสมาอิล กานี ผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านคนใหม่ ประกาศว่าอิหร่านจะแก้แค้นและลงโทษชาวอเมริกันไม่ว่าจะอยู่แห่งใด
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สั่งเสริมกำลังทหารเข้าไปในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น และขู่โจมตีเป้าหมาย 52 จุดในอิหร่าน หากรัฐบาลอิหร่านเลือกที่จะเปิดฉากโจมตีสหรัฐฯ หรือทรัพย์สินของสหรัฐฯ ใน 52 เป้าหมาย ประกอบไปด้วยพื้นที่ระดับสูงและพื้นที่สำคัญของอิหร่าน ตลอดจนพื้นที่ทางวัฒนธรรม โดยการโจมตีจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยนายทรัมป์ยืนยันว่า นับจากนี้จะไม่ใช่การขู่อีกต่อไป
ขณะที่ก่อนหน้านี้ มีจรวดตกในเขตกรีนโซนใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดดของอิรัก โดยเหตุเกิดไม่กี่ชั่วโมงหลังประชาชนเดินขบวนแห่ศพนายพลโซเลมานี อดีตผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ของอิหร่าน ที่ถูกสหรัฐฯ สังหาร อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากจรวดลูกนี้ ขณะเดียวกัน มีจรวดอีก 2 ลูก ตกใส่ฐานทัพอากาศบาลาดทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด ซึ่งเป็นที่พักของกองกำลังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่คาดว่าอาจเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธฝ่ายสนับสนุนอิหร่าน