วันที่ 21 ก.พ.65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า กังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สูงขึ้น แม้ก็อยู่กรอบที่กระทรวงสาธารณสุขประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อต้องเพิ่มขึ้นก็ตาม ซึ่งตอนนี้ได้เน้นย้ำให้เตรียมความพร้อมของสถานพยาบาล โรงพยาบาลต้องเพียงพอ รวมถึงการดูแลผู้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน
“วันนี้ จึงอยากสร้างความเข้าใจ คือความร่วมมือในการฟันฝ่าอุปสรรคประเทศไปให้ได้ในเวลานี้ ซึ่งเราต้องดูศักยภาพของประเทศเรา และแลกเปลี่ยนความร่วมกับประเทศต่างๆ ด้วย เรื่องการเมืองขอให้เบาๆ ลงสักหน่อย เพราะการอภิปรายก็ผ่านไปแล้ว ซึ่งเป็นการชี้แจง ตนเองก็ชี้แจงแบบไม่โกหก และพูดอยู่ในข้อเท็จจริง สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ และไม่เรียบร้อยก็จะพิจารณาตามกรอบอำนาจที่มีอยู่ แต่ขอให้ช่วยกันเพราะวันนี้ประเทศชาติยังมีปัญหาอยู่ ก็ขอร้องแค่นี้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นการค้ามนุษย์ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า มีการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ตอนนี้ปัญหาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังแก้ไขยังไม่ได้ 100% ต้องทำกันต่อไป ทั้งการค้ามนุษย์ การประมง เรื่องการทุจริต เราอาจจะมองว่าคะแนนเราตกต่ำลงก็ต้องไปดูในรายละเอียด ส่วนหนึ่งได้เท่าเดิม ส่วนหนึ่งลดลง แต่ส่วนที่เพิ่มมากขึ้นคือเรื่องการบริหารของภาครัฐที่ได้คะแนนสูงขึ้นมาก นี่คือผลงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหา อย่าไปดูเฉพาะเรื่องที่ไม่ดีอย่างเดียว ต้องดูส่วนไหนที่ดี ส่วนไหนที่ไม่ดีก็แก้กันไป ก็ต้องทำงานแบบนี้
เมื่อถามถึงการออกนอกประเทศของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรนทร์ อดีตรองผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 8 อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่ สมาชิกพรรคก้าวไกล หยิกยกขึ้นมาระหว่างอภิปราบทั่วไป โดยบอกว่า ถูกกดดันจนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศจากการทำหน้าที่นั้น
นายกรัฐมนตรี ถามว่า มีคดีอะไรหรือ และสามารถ ร้องทุกข์ผ่านช่องทางมาได้ พร้อมย้ำว่าตนเองไม่ได้ให้ออกไป และใครจะไปทำอะไรได้ บ้านเมืองก็มีกฎหมาย การกล่าวเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ทุกคนตอนออกไปก็สมัครใจไปเอง พอจะกลับมาก็บอกว่าไม่ปลอดภัย บางคนออกไปก็มีกฎหมายคาอยู่ แต่อยากจะกลับ อยากให้มองด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ชี้แจงเรื่องนี้แล้ว ให้ติดตามด้วย อย่างติดตามเพียงช่องทางเดียว ไม่เช่นนั้นก็จะขัดแย้งกันไม่เลิก
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อด้วยว่า คิดว่า ไม่มีอะไรก็กลับมา ตนเองไม่เคยปกป้อง หากมีหลักฐาน จะฟ้องร้องก็ฟ้องร้องไป แต่หากศาลตัดสินแล้วไม่ใช่ ก็ฟ้องกลับเท่านั้น กฎหมายอยู่ด้วยกฎหมาย ไม่ไช่พูดไปมาและขยายความผ่านสื่อ