Categories
ข่าว

หลักฐานใหม่! “วีระ” เตรียมเอาผิด “แรมโบ้” เรียกรับผลประโยชน์หลักล้านบาท

วันที่ 23 เม.ย.65 นายวีระ สมความคิด ประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชัน พรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมีหลักฐานใหม่ เพื่อเอาผิด นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กรณีเรียกรับผลประโยชน์ให้ช่วยได้รับงานในหน่วยงานราชการ เป็นวงเงินหลักล้านบาท โดยมีผู้เสียหาย 2 ราย เป็นผู้ส่งหลักฐานมาให้ มีหลักฐานชัดเจน มีคลิปเสียง แต่เขาขอว่าอย่าเพิ่งเปิดเผย และตอนนี้ตนทราบว่า มีการวิ่งเต้นให้ยุติเรื่องนี้ แต่ตนไม่สน ในเมื่อหลักฐานถึงมือตนแล้วไม่มีทางถอย ไปว่าดันในชั้นศาล เดินหน้าตรวจสอบถึงที่สุด ไม่มีการถอนเรื่อง เพื่อพิสูจน์สิ่งที่นายเสกสกล ยืนยันมาตลอดทำงาน 30 ปี ว่าไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

ทั้งนี้ ตนมั่นใจในพยานหลักฐาน และผลการทำงานของตนที่ทำงานไม่เคยพลาดแม้แต่ครั้งเดียว อย่างไรก็ดีหากนายเสกสกล จะฟ้องตน ตนขอให้รีบดำเนินการ เพราะจะได้พิสูจน์ความจริง นำหลักฐานที่มีเข้าสู่ชั้นศาลเลย

ขณะที่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึง ความคืบหน้าในการตรวจสอบคลิปเสียงของแรมโบ้กับนางจุรีพร สินธุไพร ว่า เรื่องที่ถูกปล่อยมา มี 2 ประเด็น คือ 1.ใช้เงินในการเลือกตั้งเกินกฎหมายกำหนด และ 2.เรื่องของการเรียกรับทรัพย์สิน ซึ่งสัปดาห์หน้าจะเริ่มดำเนินการสอบแล้ว ยืนยันไม่ล่าช้า แม้แรมโบ้จะลาออกแล้วก็ตาม แต่ตนรู้ไม่ได้ลาออกเอง ฝ่ายนายกฯ บีบให้ลาออก และเรื่องนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มีการดำเนินการอะไรเลย จะเข้าข่ายขัดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่

ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. กล่าวถึงกรณีของคุณจุรีพร สินธุไพร ที่คืนรองเท้า แบรนด์เนม ที่ได้จากนายกิ๊กให้กับสำนักนายกรัฐมนตรีแล้วว่า ส่วนตัวคิดว่ายังไงก็มีความผิด เพราะตอนให้สัมภาษณ์ครั้งแรก บอกว่า ได้มาวันที่ 13 มีนาคม หากจะมาบอกว่าได้มาภายหลัง ต้องไปพิสูจน์กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ว่าเป็นไปตามที่กล่าวอ้างภายหลังหรือไม่ แต่เรื่องนี้ตนถือว่าเป็นการกระทำผิดตามประกาศของ ป.ป.ช. เพราะตามประกาศบอกว่า จะต้องส่งรายงานรายละเอียดข้อเท็จจริงในการรับของที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ให้กับผู้บังคับบัญชาภายใน 30 วัน เมื่อนับจากวันที่ 13 มีนาคม มันเกิน 30 วันแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ถือว่าอยู่ในมือของ ป.ป.ช. แล้ว ต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยการเรียกคุณจุรีพร มาพบ แต่หาก ป.ป.ช.ไม่มีการดำเนินการใด ๆ ตนก็จะยื่นร้องไต่สวน ป.ป.ช.แทน โดยขีดเส้นดูท่าที ป.ป.ช. ไม่เกินสัปดาห์