Categories
ข่าว

แสดงจุดยืนชัดเจน!! ‘ธรรมนัส’ ลั่น! ถอนตัวร่วมรัฐบาล ทำงานกับฝ่ายค้าน เตรียมกราบลา ‘พล.อ.ประวิตร’

เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 12 ก.ค. 2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เปิดเผยว่า หลังการเลือกตั้งซ่อมเขต 4 จ.ลำปางที่ผ่านมา ผลคะแนนที่เกิดขึ้นทำให้ทางพรรคเศรษฐกิจไทยต้องมาทบทวนบทบาททางการเมือง จึงประชุมพรรคและพูดคุยทบทวนการทำงานที่ผ่านมา พบว่าพรรคมีความไม่ชัดเจนในบทบาท เบื้องต้นได้ให้นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นกรรมการวิปรัฐบาลอยู่ ลาออกจากการเป็นวิปรัฐบาล เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจน

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า จากนี้ไปพรรคเศรษฐกิจไทยจะเตรียมตัวไปทำงานร่วมกับฝ่ายค้านอย่างชัดเจน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ตอนนี้ตนยังติดภารกิจอยู่ที่ต่างจังหวัด หลังจากเดินทางมาถึงกทม.จะเข้าพบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อกราบลาในการที่จะออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะถือว่าพล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ตามธรรมเนียมของคนไทย ต้องไปลามาไหว้

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย และนายไผ่ ลิกค์ ส.ส. กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย ในฐานะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม โดยระบุเรื่องว่า ขอลาออกจากกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) อ้างถึงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 180/2562 ลงวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ตามอ้างถึงได้แต่งตั้งให้ นายบุญสิงห์ และนายไผ่ ลิกค์ ดำรงตำแหน่งกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ตั้งแต่ วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยให้การดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎร และรัฐสภาเป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผนตามระบบรัฐสภา บัดนี้มีความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลาออกจากวิปรัฐบาลของนายบุญสิงห์ และนายไผ่ เป็นการส่งสัญญาณถึงการถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากจะทำให้พรรคเศรษฐกิจไทยไม่มีตัวไปร่วมประชุมกับวิปรัฐบาลอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเหตุดังกล่าวเป็นผลมาจากกรณีที่พรรคเศรษฐกิจไทย พ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ยังให้สัมภาษณ์ระบุว่า สาเหตุของความพ่ายแพ้มาจากจุดยืนทางการเมืองที่ไม่ชัดเจน โดยพรรคเศรษฐกิจไทยไม่มีความชัดเจนว่าเป็นพรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคร่วมรัฐบาลกันแน่