ศึกอภิปราย! “บิ๊กตู่” ลั่น! มั่นใจ “พี่ป้อม” มาตลอดชีวิต ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น รับได้ทุกเรื่อง

วันที่ 18 ก.ค.65 ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้หารือนอกรอบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และเมื่อเสร็จสิ้นการหารือ ก่อนการแถลงข่าว นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร ได้ เดินออกจากตึกสันติไมตรี มาด้วยกัน โดยนายกฯ ได้เรียก พล.อ.ประวิตร ว่า “พี่ป้อม” และยกมือไหว้ จากนั้นทั้งคู่ได้จับแขนและตบไหล่กันเบาๆ ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรจะเดินขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ

นายกฯ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยขอให้เตรียมข้อมูลต่างๆ ให้เกิดความชัดเจน และให้สามารถชี้แจงได้ มั่นใจว่าทุกคนสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น พร้อมย้ำว่าตนทำงานด้วยจิตใจบริสุทธิ์ และเชื่อมั่นว่าทุกคนทำงานเพื่อเป้าหมาย คือประชาชนและประเทศชาติ ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็รับได้ทุกเรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความมั่นใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่จำเป็นต้องมาให้ความมั่นใจกับตนตอนนี้ เพราะตนมั่นใจ พล.อ.ประวิตร มาตลอดชีวิต และต่างก็ไว้ใจกัน สิ่งใดที่เป็นปัญหา ก็นำมาหารือและแก้ไขร่วมกัน พร้อมยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากัน

พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า การชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือน ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และต้องไม่เป็นปัญหาให้กับประเทศชาติ โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งการอภิปรายในครั้งนี้ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด เพราะบ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติจากสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ดังนั้นความไว้วางใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทั้งการลงทุน การค้า และเศรษฐกิจมีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งหมด จึงขอให้ดูสถานการณ์ในต่างประเทศ ทั้งในอาเซียนและ ภูมิภาคอื่นๆ ที่ทุกประเทศก็มีปัญหาเหมือนกันหมด ซึ่งไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกก็ต้องนำมาพิจารณาด้วย ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ อะไรทำได้และทำไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งหลายอย่างอาจเกิดการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงไม่มีการดำเนินการ เพราะต้องดูหลายปัจจัยประกอบ ว่าเมื่อทำแล้วจะเกิดผลกระทบ ต่อสิ่งอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาทุกอย่าง

“ผมไม่อาจจะกล่าวได้ว่าผมทำได้ดีที่สุดหรือดีกว่าใคร ผมขอไม่พูดแต่ก็พยายามทำให้มากที่สุด และให้ดีที่สุด ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกคน ประเทศชาติสำคัญกว่าอย่างอื่น” นายกฯ กล่าว