Categories
ข่าว

โทษรับกล้วย เดือนละแสน อาจถึงขั้นยุบพรรค แนะ “ธรรมนัส” ร้อง กกต. “บิ๊กตู่” ตอบไม่รู้ พรรคเล็กรับเงิน

จากกรณี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย อดีตเลขาฯพรรคพลังประชารัฐ ประกาศแยกทางเดินเลิกคบพรรคเล็ก ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 16:30 น.วันที่ 22 ก.ค.65 และเปรยว่า อาจมีไลน์หลุด เรื่องรับเงินเดิอน เกิน 3 พัน และอาจมีคนยื่น ปปช.ตรวจสอบ

จากนั้นไม่นาน ก็มีไลน์หลุด ที่นักข่าว ที่รัฐสภา ได้รับการส่งต่อกันมาเป็นตารางและภาพรายชื่อ ส.ส.พรรคเล็ก พร้อมลายเซ็น รับเงินเดือนประจำเดือนมีนาคม 2563 หลายคน เดือนละ 100,000 บาท

จากนั้น นาย สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และเป็นอดีตกกต. เขียนข้อความเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า “การจ่ายเงินให้พรรคการเมืองรายเดือน เดือนละแสนบาท ไม่ใช่ความผิด แค่เรื่อง เจ้าหน้าที่รัฐรับสิ่งของที่มีมูลค่าเกิน สามพันบาทเท่านั้น การจ่ายเงินดังกล่าว หากเป็นการจ่ายในลักษณะเงินเดือนต่อเนื่องมาตลอดเวลากว่า 3 ปีของ การเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยังอาจมีความผิดตาม พรบ.พรรคการเมือง มีโทษทางอาญาทั้งผู้ให้และผู้รับ หากถึงขั้นครอบงำพรรค ก็ถึงยุบพรรคการเมืองได้

ในฐานะคนคุ้นเคย หากคุณธรรมนัส มีหลักฐาน ให้เอาหลักฐานไปร้อง กกต. ในความผิดตามมาตรา 28 และ มาตรา 29 ของพรบ. พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ไม่ถนัดร้องเอง ผมทำเรื่องร้องให้ครับ”

นายสมชัย เผยอีกว่า อีกาคาบข่าวยามดึก
1. รายชื่อพรรคที่อยู่ปั๊บรับแสน มีถึง 9 พรรค แต่ตอนนี้ มีชื่อชัด ๆ อยู่ 6 พรรค มีคำว่า ไทยอยู่ 5 คำ คำว่าธรรม 2 คำ
2. ว่ากันว่า อัตราเงินที่ให้คือเดือนละ 100,000 บาท เพื่อไปช่วยประชาชนในพื้นที่ ทั้ง ๆ ที่พรรคเหล่านี้ไม่มีพื้นที่ต้องดูแลอะไร
3. ว่ากันว่า จ่ายกันมาต่อเนื่องเป็นรายเดือนกว่า 36 เดือน คูณไปคูณมา ก็กว่า 32 ล้านบาทแล้วที่จ่ายไป เอาเงินสุจริตที่ไหนมาจ่ายนี่
4. ว่ากันว่าคนรับน่ะมีชื่อชัด แต่คนจ่ายเขาระมัดระวังไม่ใช้ชื่อตัวเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เสี่ยแป้งจะกล้าเปิด
5. นิทานเรื่องนี้ จึงสรุปว่า เรื่องกล้วยมีจริง คนกินกล้วยมีชื่อแล้ว คนแจกกล้วยหาไม่ยาก แต่ต้องต่อไปให้ถึงเจ้าของสวนกล้วย

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับ หลังชี้แจงญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันสุดท้าย โดยมีสีหน้าอ่อนเพลียว่า ขอบคุณสื่อที่อยู่กันมาถึงเวลานี้ ขอบคุณในทุกกำลังใจที่ให้กับตน ซึ่งเข้าใจดีว่าทุกคนห่วงใยในบ้านเมืองเหมือนกัน ตนก็พยายามทำงานอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด

“อะไรที่มีปัญหากันผมไม่เคยคิด ไม่เคยจำอยู่แล้วไม่เคยมี ความจริงผมเป็นคนง่ายๆ ใจดี ดูดุบ้างอะไรบ้าง ก็เป็นนิสัยของผม แต่ผมไม่มีอะไรกับใครทั้งสิ้น การอภิปรายครั้งนี้ ผมถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่มีโอกาสชี้แจงในโครงการของรัฐบาลและเน้นหนักในการบูรณาการงานร่วมกันจะเห็นได้ว่าคณะรัฐมนตรีทุกคนได้พูดในกรอบงานของตัวเองและตามนโยบายของรัฐบาล โดยสิ่งสำคัญที่สุด เราจำเป็นต้องมีคณะรัฐมนตรีที่เข้มแข็ง มีทั้งในส่วนของข้าราชการ ซึ่งเป็นหลักในการทำงาน ฉะนั้นผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ก็ขึ้นอยู่กับคะแนนของสภา และความเข้าใจของประชาชนที่เป็นผู้ตัดสินเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอบคุณอีกครั้งในกำลังใจที่ส่งมาจากทางบ้านมากมายพอสมควร ตนพยายามระมัดระวังอย่างเต็มที่ในการชี้แจง แต่อาจชี้แจงไม่ค่อยดีหลายเรื่อง เพราะรายละเอียดมาก ในฐานะที่เป็นนายกฯ ก็เอาใจใส่การบริหารงานทุกงาน แต่ก็ต้องไปรับทราบงานกระทรวงอื่น ทำให้มีเรื่องรกหัวอยู่มากเช่นกัน ดังนั้น เรื่องรายละเอียดต่างๆ ได้มอบหมายให้รัฐมนตีรับผิดชอบโดยตรง และได้ชี้แจงควบคู่กันไปด้วย จึงหวังว่าพรุ่งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ส่วนหลังจากนี้จะมีการพิจารณาปรับรัฐมนตรีบางคนหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ หันมาตอบสั้นๆ ว่า “นี่เธอ ทำไมอยากปรับเหลือเกิน”

เมื่อถามถึงกรณีมีการแฉแชทใบเสร็จรับเงินของ ส.ส.กลุ่มพรรคเล็ก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไลน์อะไร ไม่รู้ ผมจะไปรู้ได้ไง” และกล่าวถึงเรื่องการคำนวณสูตร ส.ส. ว่าก็แล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญ

โดยขณะที่นายกฯ ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแชทไลน์ของกลุ่มพรรคเล็กหลุดอีกครั้งว่าจะมีการตรวจสอบอย่างไร นายกฯ ย้อนถามกลับว่า “ไลน์ใครล่ะ ผมไม่ได้อยู่กลุ่มใครสักกลุ่ม จะมาถามอะไรผม จะให้ตรวจสอบอะไร”