จากกรณีฆาตกรโหดลงมือฆ่ า พ.ต.ท.จำรัส ดลเจือ อายุ 57 ปี สวป.สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ อย่างโหดเหี้ยม ภายในบ้านพักไม่มีเลขที่ บ้านน้อยพัฒนา ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ด้วยการใช้อาวุธมีดแท งคอและลำตัวจนเสี ยชีวิต จากนั้นลงมือตัดเจ้ าโลกหายไป พร้อมเผารถยนต์และบ้านของผู้ตา ย ต่อมาตำรวจตามจับกุม นายอมรลัก จิตเกาะ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นสามีของหมอดูสาวที่ติดพันกับผู้ตา ยได้ หลังหลบหนีเข้าป่าใน จ.นครราชสีมา
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 3 ก.พ. พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่จับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้วขณะหลบหนีเข้าไปในป่าที่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา และอยู่ระหว่างการนำตัวมาสอบสวน หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพยานหลักฐานจนทราบว่าคนร้ายคือนายอรมลัก
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวว่า ส่วนสาเหตุประเด็นนั้นเบื้องต้นเรื่องชู้สาว โดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุคาดว่านายอรมลักมาดักรอ พ.ต.ท.จำรัส ที่หน้าห้องน้ำบริเวณหลังบ้าน หลังจากออกจากห้องน้ำได้ใช้ของแข็งทุบเข้าที่ศีรษะ จากนั้นคาดว่าจะใช้มีดกระหน่ำแท ง พ.ต.ท.จำรัส จนล้มลง ก่อนที่จะหั่นต้นขาทั้งสองข้าง และเฉือ นอวั ยวะเพศจนขาดด้วยความโกรธแค้น แล้วพยายามใช้น้ำมันจุดไฟเผารถและบ้าน เพื่อทำลายหลักฐาน แต่มีเพื่อนบ้านละแวกนั้นเห็นเปลวไฟและมาช่วยกันดับไฟไว้ได้ก่อนที่จะลุกลามไหม้ทั้งบ้าน
เบื้องต้นนายอมรลักรับสารภาพว่า ตนรู้สึกระแคะระคายว่า พ.ต.ท.จำรัส มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับภรรยามานานแล้ว โดยช่วงเดือน ก.พ.61 ภรรยาที่มีอาชีพเป็นหมดดูดวงมาบอกว่าอยากแก้เคล็ด ซึ่งหากหย่ากับสามีแล้วจะได้เงินล้าน ตนก็ยอมทำตาม แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยามาตลอด
นายอมรลักเล่าอีกว่า กระทั่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย.62 ตนจึงรู้ความจริง เพราะพ.ต.ท.จำรัส ได้โทรเข้าเครื่องลูกชาย เนื่องจากโทรศัพท์ภรรยาเสีย ตนจึงสอบถามลูกชายก็ได้ทราบความจริง จากนั้นจึงไปขอร้องพ.ต.ท.จำรัส เพื่อไม่ให้มายุ่งกับภรรยาหลายครั้ง ทั้งไปเจอด้วยตนเอง และพยายามส่งข้อความไปบอกว่าพ.ต.ท.จำรัส มีภรรยา มีครอบครัวแล้วอย่ามายุ่งกับภรรยาตนเลย แต่พ.ต.ท.จำรัสก็ไม่ฟัง อีกทั้งระหว่างคบหากัน พ.ต.ท.จำรัสก็ไม่ได้ให้อะไรภรรยาตนเลย มีแต่ตนที่หาเงินรับจ้างได้วันละ 300 บาท เก็บเงินได้ให้ภรรยาครั้งละ 500-600 บาท แต่ภรรยาก็เอาไปซื้อกับข้าวเลี้ยงตำรวจ
กระทั่งวันเกิดเหตุตนกับภรรยาทะเลาะกัน เกี่ยวกับเรื่องห้ามภรรยาไม่ให้ไปยุ่งกับพ.ต.ท.จำรัส แต่ภรรยาไม่ฟัง อีกทั้งฝ่ายชายก็ยังไม่ยอมหยุด ด้วยความโมโหจึงตัดสินใจไปก่อเหตุดังกล่าว