วันที่ 4 ก.พ.63 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกล่าวถึงการเดินทางไปรับคนไทยที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนว่าขณะนี้น่าจะกำลังขึ้นเครื่องเดินทางกลับมายังประเทศไทย เพราะต้องใช้ระยะเวลาทำการคัดกรองจากต้นทางและปลายทาง ซึ่งกลับมาแล้วต้องระมัดระวังไม่ให้แพร่เชื้อในไทย พร้อมทั้งต้องเห็นใจคนที่เดินทางกลับมาประเทศไทย เพราะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน แต่ก็เพื่อความปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมมาตรการรองรับไว้ คาดว่าจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในเวลาประมาณ 19 นาฬิกาวันนี้
ซึ่งพื้นที่ในการกักตัวจะใช้พื้นที่ของทหารเรือที่อาคสรรับรองทหารเรือ อ่าวดงตาลอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นี่จึงเป็นคำตอบว่า มีทหารไว้ทำไม เพราะท้ายที่สุดแล้วทหารก็เป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้นต้องเห็นใจทหารด้วย เพราะเป็นผู้เสียสละทหารก็กลัวแต่ก็ยินดีที่จะหาพื้นที่ที่เหมาะสมให้ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีปฏิเสธตอบคำถามว่าจะเดินทางไปเยี่ยมคนไทยที่กลับจากเมืองอู่ฮั่นหรือไม่ระบุเพียงว่าขอดูก่อน ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหลังเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีระบุว่ายังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งในหลายประเทศเมื่อรับกลับมา ก็มีการติดเชื้อ ดังนั้นจะต้องมีการทบทวนมาตรการในการรับมือและผ่านมาตรการการควบคุมต่างๆเพราะมีระยะการปรับตัวพอสมควร เบื้องต้นได้รับรายงานว่าผู้ที่จะเดินทางกลับมายังประเทศไทยทั้งหมดไม่ได้มีการติดเชื้อ
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปรับคนไทยก็ มีการป้องกันตัวเพื่อไม่ให้ติดเชื้อ แม้เจ้าหน้ามีความเสี่ยงแต่ยอมเสียสละและหลายคนอาสาสมัครที่จะไปเอง แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้กระบวนการคัดกรองที่เข้มงวด
นายกรัฐมนตรี ยอมรับมีความกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า เนื่องจาก ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ แต่ก็ต้องมีการป้องกันเพื่อไม่ให้การแพร่ระบาด ขยับระดับไปอยู่ในระดับ 3 ต้องพยายามหยุดยั้งให้ได้ให้อยู่ในระดับ2 ซึ่งเป็นระยะต้น ต้องคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ควบคุม จัดเตรียมมาตรการการรักษาพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลถึงแม้จะกังวลอย่างไรแต่ก็ต้องมั่นใจ ในมาตรการที่มี และบุคลากรทางสาธารณสุขซึ่งถือเป็นระดับต้นๆของโลก
แต่ถึงแม้จะมีการระบาดก็ไม่สามารถสั่งเชื้อโรคให้หยุดการแพร่ระบาดได้ ซึ่งหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้โดยเร็วด้วยความร่วมมือ ของประเทศต้นทาง กลางทางและปลายทาง พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลทำเต็มที่แล้ว
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การหน้ากากอนามัยขาดแคลนและการจำหน่ายเกินราคาว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม โ โดยให้กรุงเทพมหานครและกระทรวงพาณิชย์ ไปจัดซื้อหน้ากากจากโรงงานมาจำหน่ายค้าส่งค้าปลีก ในราคาที่เป็นธรรมในราคาที่เป็นธรรม ราคาที่เป็นธรรมโดยบ่ายนี้จะมีการปกครองโดยในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการออกกฎกระทรวงและประกาศในราชกิจจานุเบกษาโดยยืนยันหน้ากากอนามัย ที่ใช้ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่าไม่ได้มีราคาแพงเหมือนกับหน้ากากอนามัยที่ใช้ป้องกัน ฝุ่นPM 2.5 ขอให้ชี้แจงทำความเข้าใจด้วย แต่ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะซื้อหากมีกำลังก็ว่ากันไป
และนายกรัฐมนตรียังจำได้ว่า หลังใช้หน้ากากอนามัยควรทิ้งให้ถูกวิธี เพราะเป็นขยะติดเชื้อ ซึ่งรัฐบาลพยายามทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างเต็มที่แต่ก็มีคนเลวๆ บิดเบือนทำให้เกิดปัญหาซึ่งตัวเองกลับคิดว่า ต้องทำงานอย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลเพราะวันนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญหาจะเอาแต่เล่นการเมืองอย่างเดียวตนมองว่าไม่ถูกต้องเพราะนี่คือประเทศของทุกคนหรือไม่ใช่ประเทศของฝ่ายค้าน