ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดร้อยเอ็ดแถงข่าวจับกุมแก๊งค้ายาบ้ า ของกลาง 110,000 เม็ด
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10.30 น ที่หน้าอาคารสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
พลตำรวจตรีไพโรจน์ มังคลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พันเอก วีระพงษ์ คำสิทธิ์ รองผอ. รมน .จังหวัดร้อยเอ็ด พันตำรวจเอก พิษณุวัตถุ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พันตำรวจโท ยอดชาย ปะวรรณจะ สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธรโคกสว่าง พันตำรวจโท ภากร สุขประเสริฐ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมกำลัง ได้แถลงผลการจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ต้องหาคดียาเส พติดรายสำคัญ
คดีที่ 1 จับกุมนายจักรพันธ์ หรือกุ๊ก วิศิษฏศักดิ์อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 214/2 ถนนเมืองพล ตำบลเมืองพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น และนางสาวสาวิตรี หรือส้มโอ รักชาติยิ่งชีพ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 146 หมู่ 9 ตำบลเพ็กใหญ่ อำเภอพลจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยของกลางยาบ้ า 110,000 เม็ด ผลึกไอซ์ น้ำหนัก 2.25 กรัม อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. 1 กระบอกกระสุนปืน 15 นัด
คดีที่ 2 จับกุมนายบุญทอม หรือทอม อุยะเอก อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 31 หมู่ 1 บ้านนาโคก ตำบลโคกสว่าง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมยาบ้ า 11,000 เม็ดอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม 1 กระบอก พร้อมซองกระสุนจำนวน 1 ซองกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 12 นัด เพื่อ
ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ร่วมกันพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร
ทั้งนี้เมื่อเวลา 04.20น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า จะมีการส่งยาเสพติดจากผู้ค้ารายสำคัญ ให้แก่ลูกค้าภายในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และใกล้เคียงโดยใช้เส้นทางผ่านอำเภอหนองพอก- ยโสธร-มุกดาหาร จึงได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อตรวจค้นจับกุมที่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรโคกสว่าง กระทั่งพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ ทะเบียน 6538 กรุงเทพฯ ภายในรถพบคนขับคทอนายจักรพันธ์ และนางสาวสาวิตรี นั่งมาด้วยกัน ทั้งสองคนท่าทางมีพิรุธสงสัยว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายซ่อนอยู่ในรถยนต์ จึงได้ขอทำการตรวจค้นพบของกลาง ตามรายการข้างต้น สอบถามทั้งสองคนให้การยาบ้าที่ตรวจยึดได้เป็นของเฮียตุ้ยชาวลาว ซึ่งสั่งการทางโทรศัพท์ให้พวกตนไปรับยาบ้าจากจังหวัดมหาสารคาม และกาฬสินธุ์ เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดยโสธร และมุกดาหาร ส่วนอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนมีไว้เพื่อป้องกันตัวขณะเดินทางไปส่งยาบ้ าให้กับลูกค้า ระหว่างนั้นได้มีโทรศัพท์ลูกค้าโทรเข้ามายังเบอร์ของผู้ต้องหาทั้งสองสอบถามถึงงานที่สั่งไว้ เจ้าหน้าที่จึงขยายผลตามจิ กุมนายบุญทอม ได้พร้อมของกลางยาบ้ า และอาวุธปืน แล้วจึงคุมสอบสวนขยายผล ก่อนส่งพนักงานสอบสวนสภ. โคกสว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนั้นผู้ต้องหาในคดีที่ 1 ทั้งสองคนรับสารภาพว่าเคยถูกจับคดียาเสพติดมาก่อน และรู้จักกันรู้จักกันขณะถูกคุมขังในเรือนจำ หลังพ้นโทษออกมา จึงได้มาอยู่กินร่วมกัน และได้ติดต่อรับยาบ้ าจากพ่อค้าชาวลาว เพื่อนำส่งให้ลูกค้าตามสั่ง ครั้งละประมาณ 50 มัด ทำมาแล้ว 3 ครั้งได้ค่าตอบแทนครั้งละ 150,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนขยายผลเพื่อตามจับกุมผู้ค้าในเครือข่ายที่เหลือต่อไป