Categories
ข่าว

“โดนข้อ 2 ข้อหาหนัก” พ่อเฒ่าวัย 73 ฆ่านั่งยางหนุ่มผู้รับเหมา เผยปมทวงเงินไม่คืน

จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 63 เวลา 12.30 น. ร.ต.อ.อภัย เสน่น์วงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งจากนายสถาพร สีสังข์ ได้เข้าแจ้งมีว่าพ่อของตนได้หายตัวไป ทราบชื่อคือนายพเยาว์ สีสังข์ อายุ 56 ปี ได้หายตัวออกจากบ้าน ซึ่งล่าสุดพ่อของตนได้ซ้อนจักรยานยนต์ไปกับนายทองลุ่ม ศิริเวช อายุ 73 ปี ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น.แล้วหายตัวไปไม่กลับเข้าบ้าน จึงได้ออกตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ก.พ.63 เวลา 04.00 น. ชุดสืบสวนได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่ามีชาวบ้านพบจักรยานยนต์ของนายพเยาว์จอดอยู่ทุ่งนาหมู่ 5 ต.หนองแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด จึงได้ออกตรวจสอบจุดดังกล่าวพบเศษเถ้าถ่าน โครงเหล็กของล้อยางรถยนต์และเศษกระดูกมนุษย์จำนวนหนึ่งซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับที่นาของนายทองลุ่ม (ผู้ต้องหา)

จากการสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายพเยาว์ได้นั่งดื่มสุราอยู่กับนายทองลุ่ม ที่ร้านขายของชำ ม.5 ต.หนองแก้ว อ.เมือง ก่อนนายทองลุ่มจะชักชวนนายพเยาว์ไปเลี้ยงวัวที่ทุ่งนาของนายทองลุ่ม ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทางออกหมู่บ้านพบว่าก่อนที่นายพเยาว์ จะหายตัวไป ได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน ขมต 312 ร้อยเอ็ด ออกจากบ้านดอนก่อ มุ่งหน้าไปทุ่งนาจุดเกิดเกิดเหตุ แต่ขากลับเข้าหมู่บ้าน มีเพียงนายทองลุ่มได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาเพียงคนเดียว ซึ่งในเวลาต่อมากล้องวงจรปิดจับภาพนายทองลุ่มได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงท้ายรถเข็น ขนยางรถยนต์ กับเศษไม้มุ่งหน้าไปทางทุ่งนาที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งในเวลาต่อมาชุดสืบสวนได้ไปพบกองขี้เถ้า ณ จุดเกิดเหตุดังกล่าว

พนักงานสอบสวนได้สอบสวนได้ออกตรวจที่เกิดเหตุร่วมกับพิสูจน์หลักฐานร้อยเอ็ด ได้สอบสวนพยานแวดล้อมและรวบรวมพยานหลักฐาน ต่างๆเชื่อว่านายทองลุ่ม เป็นผู้กระทำความผิด โดยการฆ่ านายพเยาว์ จากนั้นได้เผาอำพรางศพนายพเยาว์จึงได้ร้องขอศาลร้อยเอ็ด ออกหมายจับนายทองลุ่ม (ผู้ต้องหา)และศาลอนุมัติหมายจับ

ช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.พ.63 พ.ต.อ.ดร.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้เข้าจับกุมตัวนายทองลุ่มหรือทราย ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลที่บ้านพัก ม.5 ต.หนองแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด นำส่งพนักงานสอบสวน

จากการสอบสวนนายทองลุ่ม (ผู้ต้องหา) ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหากับผู้ตายได้ดื่มสุราด้วยกันอยู่ร้านค้าในหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 100 เมตร จนเกิดอาการมึนเมา โดยระหว่างนั้นผู้ตายได้ทวงถามเครื่องมือช่างกับตน ตนจึงบอกว่าเครื่องมือช่างไม่อยู่แล้ว จึงได้เอาเงินจำนวน 2,500 ให้กับผู้ตาย หลังจากนั้นตนก็ได้ทวงถามเงินดอกเบี้ยที่ก่อนหน้านี้ผู้ตายได้กู้เงินจากตน จำนวน 15,000 บาทก่อนผู้ตายจะเอาเงินให้ตนจำนวน 1,000 บาท จากนั้นจึงชักชวนพาผู้ตายไปเลี้ยงวัวที่ทุ่งนาของตน

เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ต้องหา กับผู้ตาย ได้มีปากเสียงและทะเลาะวิวาทกัน ผู้ต้องหาจึงได้ใช้ท่อนไม้ที่อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุตีที่บริเวณศีรษะของผู้ตายจำนวน 2 ครั้ง พบว่าผู้ตายได้นอนแน่นิ่ง ตนคิดว่าเสียชีวิต ผู้ต้องหาจึงขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ขนยางรถยนต์ กับไม้ฟืน มาเผาร่างของผู้ตายเพื่ออำพรางคดี ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงไดด้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายทองลุ่ม ศิริเวช อาบุ 73 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ลอบฝัง ซ่อนเร้น หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า วันที่ 29 ก.พ.63 ผู้ต้องหาได้รับสารภาพต่อพนักงานสอบสวนว่าได้นำเศษเถ้าถ่านและกระดูกของผู้ตายไปทิ้งที่ข้างหนองน้ำ (หนองบอน) ห่างจากจุดเกิดเหตุ 150 เมตร และพบเสื้อที่ใช้ปกคลุมจักรยานยนต์ของผู้ตาย พนักงานสอบสวนจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเพื่อประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

จากการสอบถามนางบุญกว้าง ศิริเวช อายุ 70 ปี (ภรรยาผู้ต้องหา) เล่าว่าปกตินายทองลุ่ม เป็นคนดีที่ให้การช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ อาจจะเป็นจากการทวงถามหนี้ที่นายพเยาว์ได้ยืมเงินไป 10,000 บาท ก่อนที่นายพะเยาจะได้ยกเท้าคล้ายจะถีบนายทองลุ่ม ในขณะนั่งกินเหล้าที่ร้านค้าภายในหมู่บ้าน จึงเกิดอารมณ์บันดาลโทสะ จึงได้ลงมือในครั้งนี้ ตนจึงอยากขอโทษญาติพี่น้องและครอบครัวของในนายพเยาว์ในเหตุการณ์ที่เกินขึ้น