Categories
ข่าว

“บิ๊กตู่” นำทีม ครม.บริจาค เงินเดือน 1 เดือน หลักแสน เข้า “กองทุนป้องCoViD-19 “

วันที่ 3 มี.ค.63 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบในหลักการเพื่อเสนอตั้งกองทุนเพื่อให้รัฐมนตรีช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาโรคระบาดCoViD- 19 โดยเบื้องต้น แล้วแต่ความสมัครใจ ไม่ได้บังคับ แต่ส่วนใหญ่คณะรัฐมนตรี เห็นพ้องต้องกัน ว่าจะมอบเข้ากองทุน คนละ 1 เดือนก่อน เพื่อสมทบกับงบประมาณเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยในแต่ละเดือน นายกรัฐมนตรี ได้เงินเดือนอยู่ที่ 125,590 บาท ขณะรองนายกรัฐมนตรีอีก 4 คน ได้เงินเดือน 119,920 บาท ส่วนรัฐมนตรี ได้เงินเดิน 115,740 บาท

ในที่ประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ชี้แจงในที่ประชุมถึง ความคืบหน้าการติดตามช่วยเหลือคนไทยที่ลักลอบเกาหลีใต้ กลับไทยว่า เกาหลีใต้มีมาตรการคัดกรองเช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งก่อนที่จะได้ขึ้นเครื่องกลับมา ต้องถูกกักตัว 14 เพื่อสังเกตอาการ แต่หากพบว่าป่วย ก็ไม่สามารถขึ้นเครื่องกลับได้ และหากเดินทางมาถึงไทยแล้ว จะถูกกักตัว 14 วัน เช่นเดียวกับกรณีคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่น หรือ ให้ไปเฝ้าติดตามอาการในบ้านแต่ละคน ซึ่งเรื่องนี้จะได้ความชัดเจนในที่ประชุมการเตรียมมาตรการรองรับแรงงานที่กลับมาจากเกาหลีใต้ ในวันที่ 4 มี.ค.ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก ยืนยันว่ามีมาตรการรองรับ เพียงแต่จะเข้มข้นในระดับไหนเท่านั้น

ศ ดร.นฤมล กล่าวว่า สำหรับแรงงานไทยที่กลับจากเกาหลีใต้ จะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อ ใช้ดำเนินการกับผู้ที่เดินทางเดินทางมาจากนอกราชอาณาจักร เรื่องมาตรการในการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งตรวจวัดอุณภูมิ หากพบเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโควิด-19 ขอให้ประสานสถานพยาบาลเข้าเข้าตรวจรักษา แยกกักกัน ส่วนกรณีที่ไม่พบเหตุอันสงสัยให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ให้ ผู้ที่มีที่พักอาศัยประจำในภูมิลำเนาเดิมประเทศไทยจัดการตัวเองในที่พัก 14 วัน ห้ามออกจากที่พัก เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

ส่วนกรณีผู้ที่ไม่มีที่พักอาศัยประจำให้แสดงหลักฐาน คือ หลักฐานที่พักอาศัยที่ตนจะอาศัยอยู่ใน 14 วัน , หลักฐานเจ้าของยินยอมให้พัก, หลักฐานที่แสดงว่าที่พักดังกล่าวมีหลักแหล่งชัดเจน , และกรณีที่ผู้เดินทางไม่สามารถแสดงหลักฐานเหล่านี้ ให้ปฏิบัติตามพรบคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 ตามอำนาจในมาตรา 12 และมาตรา 22 คือการส่งกลับ ทั้งนี้ให้แจ้งกับผู้เดินทางให้ทราบว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดำเนินการของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อและเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ให้บุคคลดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

สำหรับการปฏิบัติตัว ผู้ที่เดินทางกลับมาจะต้องไม่ออกไปนอกบ้าน และไม่เดินทางไปชุมนุมในที่สาธารณะ อย่างน้อย 14 วันนับจากวันที่เดินทางกลับมาในพื้นที่เสี่ยงโรคระบาด หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดบุคคลอื่นโดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ พร้อม ย้ำว่ายังไม่มีการยกระดับไปสู่ระยะที่3 ซึ่งกรมควบคุมโรคได้รายงานว่าต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือนกว่าจะไปถึงจุดนั้น