เมื่อวันที่ 4 มี.ค.63 เวลา 20.00 น. ร.ต.อ.วัฒนา วงค์อินตา รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งเหตุรถดั้มชนรถกระบะ บนถนนสายร้อยเอ็ด-โพนทอง ปากทางบ้านขัดเค้า ตำบลหนองพอก อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงออกตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพ รพ.ธวัชบุรี อาสาสมัครกู้ภัยนครสาเกต อาสาสมัครกู้ภัยอโสกธวัชบุรี
ถึงจุดเกิดเหตุเป็นสามแยกทางเข้าหมู่บ้าน ตัดกับถนน 4 ช่องจราจร พบรถดั้ม ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 82-6212 ร้อยเอ็ด ทราบชื่อคนขับคือนายสุริยัน โพธินาม อายุ 48 ปี กระเด็นตกลงมาอยู่ริมไหล่ทาง ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส มีแผลฉีกขาดบริเวณศรีษะ ยาว 5 ซม. ลึก 3 ชม. มีอาการซึมร่วม สภาพด้านหน้ารถใต้ซุ้มล้อด้านซ้ายพังเสียหายยับเยิน เพลาล้อหน้าหลุด ล้อหน้าดา้นซ้ายหลุด กระจกด้านหน้าหลุดออกทั้งบาน พบรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีขาว หมายเลขทะเบียน บร 4995 สกลนคร ชนอัดติดกับรถดั้ม สภาพด้านหน้ารถพังเสียหายยับเยิน พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนขับทราบชื่อคือนายสุภัทรพล บุตรพรหม อายุ 26 ปีได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส แขนด้านซ้ายระดูกผิดรูป มีอาการจุกแน่นหน้าอก มีอาการซึมร่วม ด้านท้ายรถกระบะยังพบรถเก๋ง มิตซูบิชิ เอจทาต สีดำ หมายเลขทะเบียน กต 171 ร้อยเอ็ด สภาพด้านหน้ารถฝั่งขวาพังเสียหาย ทราบชื่อคนขับคือนายยอดชาย ศรีสุแล อายุ 40 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล เคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด
สอบถามนายสุภันทรพล คนขับกระบะเล่าว่า ตนขับรถออกจาก อ.เมืองร้อยเอ็ด มุ่งหน้ากลับบ้านที่อำเภอโพนทอง มาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆได้มีรถดั้มที่ๆม่ได้เปิดไฟหน้ารถเลี้ยวปาดหน้า ตนมองเห็นในระยะกระชั้นชิด จึงพยายามเบรคแต่ก็ไม่ทันทำให้รถชนเข้าอย่างจัง จนส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
จากการสอบถามนายยอดชาย ศรีสุแล อายุ 40 ปี คนขับรถเก๋งเล่าว่าในขณะที่ตนหยุดรถรอข้ามสามแยกจุดเกอดเหตุ ได้มองเห็นรถดั้มขับมุ่งหน้าเข้า อ.เมืองร้อยเอ็ด โดยไม่ได้เปิดไฟหน้ารถ แต่ให้สัญญาณไฟเลี้ยว โดยขับคร่อมถนนช่องกลางของถนน 4 ช่องจราจรเพื่อจะเลี้ยวขวาเข้าบ้านขัดเค้า จู่ๆได้มีรถกระบะสีขาวขับมุ่งหน้า อ.ธวัชบุรี วิ่งมาถึงจึดเกิดเหตุแต่ไม่ทันมองเห็นดั้มที่กำลังเลี้ยว จึงชนประสานงาเข้าอย่างจัง ก่อนที่รถกระบะจะเหวี่ยงมาชนกับด้านหน้ารถตนที่หยุดรถรอข้ามแยก ตนจึงรีบลงจากรถมาดูพบผู้ได้บาดเจ็บ จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือดังกล่าว
พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุ ก่อนจะสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ แต่เนื่องจากคนขับคู่กรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงจะเรียกตัวมาสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป