มีรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ล่าสุด ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานได้มีการหารือถึงการประกาศใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อควบคุมการระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งผลการหารือที่ประชุม ครม.มีมติให้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินดังกล่าว โดยจะมีการกำหนดรายละเอียดเรื่องพื้นที่และแนวปฏิบัติเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยนายกฯ จะเป็นผู้แถลงรายละเอียดประกาศดังกล่าวในช่วงบ่ายวันนี้
สำหรับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดังกล่าว คาดว่า จะมีทั้งการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน, มาตรการห้ามรวมตัวกันหรือมั่วสุมชุมนุมทำกิจกรรมทุกประเภท
ทั้งนี้ มาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ระบุว่า ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงได้โดยเร็ว หรือ ป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้น ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจออกข้อกำหนด
(1) ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ เป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น
(2) ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
(3) ห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน
(4) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
(5) ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใด ๆ
(6) ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนดังกล่าว หรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด
ส่วนมาตรา 18 ได้กำหนดโทษ ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ