จากกรณี เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการเปิดเผย เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นหญิง อายุ 34 ปี เป็นพนักงานในสถานบันเทิง ย่านสุขุมวิท พบว่ามีประวัติการเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ ด้วยรถโดยสารประจำทาง สายกรุงเทพฯ-ดอนตาล มาถึง บขส.โพนทอง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าร่วมงานแต่งงานของญาติ ในวันที่ 19 มี.ค. ที่พื้นที่ตำบลคำนาดี อำเภอโพนทอง และมีการเดินทางมาซื้อของในร้านค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลแวง อำเภอโพนทอง ในวันที่ 20 มี.ค. ก่อนจะพบว่าตนมีอาการไข้ต่ำๆ และมีอาการเจ็บคอ มีน้ำมูก ในช่วงเย็นวันที่ 24 มี.ค ก่อนจะเดินทางไปโรงพยาบาล ซึ่งก็พบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ดต่อไป
สำหรับเคสดังกล่าว มีผู้ป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยหรือติดเชื้อ ที่เสี่ยงสัมผัสเชื้อถูกกักตัว และติดตามอาการ 14 วัน ประมาณ 120 คน ในงานมงคลสมรสที่ผู้ป่วยเข้าไปร่วมงานแต่งงาน ขณะนี้เรียกตัวมาแล้ว 20 ราย ยังเหลืออีก 100 ราย ยังไม่สามารถเรียกตัวมาสอบสวนโรคได้ อาจจะต้องมีมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มข้น พร้อมยืนยันว่าโรงพยาบาลมีมาตรการดูแลและป้องกันเชื้อตามกฎกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มี.ค.63 นายวันชัย คงเกษมผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จากการเรียกตัวชาวบ้านที่มาร่วมงานแต่งงาน มาสอบสวนโรค จากจำนวน 200 ราย ณ แต่สามารถเรียกตัวมาสอบสวนโรคได้เพียง 157 ราย เพื่อบันทึกข้อมูล ส่วนใครที่เข้าเกณฑ์โควิด-19 ก็จะนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งล่าสุดยังขาดอีก 43 รายที่ยังไม่มารายงานตัว ส่วน 157 รายที่มารายงานตัง เบื้องต้นได้แนะนำให้กักตัวเองจำนวน 14 วันในบ้านพักและแยกของใช้ส่วนตัวออกจากครอบครัวที่พักอาศัยร่วมกัน จนกว่าจะครบจำนวน 14 วัน และได้ผลตรวจเชื้อโควิด-19 ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง
โดยทางนายวัลลภ จินดาเงิน นายอำเภอโพนทอง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งเรียกตัวผู้ที่เข้าร่วมงานแต่งงานเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่บ้านบึงงาม ตำบลคำนาดี อำเภอโพนทอง มารายงานตัวเพื่อสอบสวนโรคโดยเร็ว นอกจากนี้ได้ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ถนนสายหลัก/เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด บขส.โพนทอง ที่เป็นจุดที่ผู้ป่วยรายที่ 3 เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ และร้านค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลแวง อำเภอโพนทอง
