Categories
ข่าว

ฝ่าฝืนมีโทษ! ผู้ว่าร้อยเอ็ด สั่งปิด 15 สถานที่เสี่ยงโควิด-19 ตาม พรก.ฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ได้มีการออกประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีประกาศจังหวัดร้อยอ็ต ฉบับลงวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563 เรื่อง ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไว้เป็นการชั่วคราว และฉบับลงวันที่ 20 มีนาคุม พ.ศ.2563 เรื่อง มาตรการเร่งต่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (เพิ่มเติม) โดยให้หน่วยงานของรัฐและเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ดถือปฏิบัตินั้น

เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาตของโรคติดเชื้อไวสโคโรนา 2019 ที่มีการแพร่ระบาด ในหลายประเทศทั่วโลกทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งพบผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สำหรับจังหวัดร้อยเอ็ด พบมีรายงานผู้ป่วยยืนยันจำนน 3 ราย ดังนั้น เพื่อให้การป้องกันควบคุมการแพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 แห่ง พระราขบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ 2558 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ประกอบกับมีมติคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 และวันที่ 24 มีนาคม 2563 แถลงการณ์ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การประกศสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โตยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ต ในการประชุมฯ ครั้งที่ 4/2563 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 จึงยกเลิกประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด ฉบับลงวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2563 เรื่องให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไว้เป็นการชั่วคราว และ ฉบับลงวันที่ 20 มีนาคม พศ.2563 เรื่อง มาตการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (เพิ่มเติม) และให้มีประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุม การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ดำเนินการดังต่อไปนี้

1. ปิดสถานบริการตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบันและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการ ในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สนุกเกอร์ และสถานที่จำหน่ายสุรา โดยจัดให้มีการจัดแสดงดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลง แสง เสียง หรือกิจกรรมอื่นใดเพื่อการบันเทิง

2. บิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พศ.2509 ในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ อบไอน้ำอบสมุนไพร อาบอบ นวด และนวดแผนโบราณ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535

3.ปิดสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน และสถาบันกวดวิชา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนผู้สูงอายุ
4. ปิดโรงภาพยนตร์ สถานที่แสตงมหรสพ การจัดแสตงคนตรี คอนเสิร์ต สถานที่ที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะ
5. ปิดร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต
6. ปิดสถานที่ออกกำลังกาย (ฟิตเนส) สระว่ายน้ำ สวนน้ำ สวนสนุก
7. ปิดสนามมวย สนามซ้อมมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามเต็กเล่น สนามม้า สนามกอล์ฟ สนามฝึกกอล์ฟ สนามยิงปืน สนามชนไก่ สนามคัดเลือกไก่ สนามกัดปลา บ่อตกปลา และบ่อตกกุ้ง
8. ปิดตลาดนัดโค-กระบือ

9. ร้านอาหารที่มิใช่สถานบันเทิงหรือสถานบริการและแผงจำหน่ายอาหาร ร้านอาหารประเกทปิ้งย่างหรือร้านอื่นที่มีลัษณะเดียวกัน สามารถจำหน่ายอาหารเฉพาะผู้บริโภคซื้อไปบริโภคนอกสถานที่ ร้านอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรมให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรมหรือจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคนอกสถานที่ ร้านอาหารและเครื่องดื่มในโรงพยาบาล โดยให้จัดสถานที่ให้เป็นไปตามข้อ 20 ของประกาศฉบับนี้
10. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่มีร้านค้าย่อยในอาคารหรือบริเวณเดียวกัน ให้เปิดเฉพาะแผนกชุปเปอร์มาร์เก็ต แผนกขายยา ธนาคาร ส่วนที่จำหน่ายสินค้าอุปโภค
บริโภคที่จำเป็นต่อการตำรงชีวิต เช่น แผนกไฟพ้า ประปา ศูนย์บริการโทรศัพท์หรือระบบสื่อสารในส่วนอาหาร ร้านอาหาร สามารถจำหน่ายอาหารเฉพาะผู้บริโภคซื้อไปบริโภคนอกสถานที่

11. ปิตพื้นที่นั่งหรือยื่นรับประทานอาหารในร้านสะดวกซื้อ ร้านเครื่องดื่ม และซุปเปอร์มาร์เก็ต
12. ปิดตลาดคลองถม ตลาดถนนคนเดิน สำหรับตลาดและตลาตนัด ให้สามารถจำหน่ายเฉพาะอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ และสินค้าเบ็ดเตล็ดอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิต โดยให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามข้อ 20 ของประกาศฉบับนี้
13. ปิดร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม (ยกเว้นร้านที่ไม่จัดที่นั่งคอย)
14. ปิดสถานที่บริการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย
15. ปิดศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา

16.ให้งดกิจกรรมการวมคนจำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่มีคนเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 100 คนขึ้นไป เช่น การประชุม อบรม สัมมา
17. ควรงดหรือชะลอการจัดกิจกรรมหรือพิธีทางสังคม เช่น พีธีมคลสมรส พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ยกเว้นพิธีศพ กิจกรรมหรืองานพิธีที่ทางราชการจัดขึ้นหรือเป็นไปตามหมายกำหนตการของทางราชการ ยังคงจัดได้
ตามความเหมาะสม แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการบองกันโรค ข้อ 20 ของประกาศฉบับนี้

18. ให้งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงานที่มีคนจำนวนมาก หรือหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของโรค เช่น การคัดกรองคนก่อนเคลื่อนย้ายรวมถึงจำกัดการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าว เป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

19. คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ในช่วงเวลานี้ประชาชนพึงงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในระยะนี้โดยไม่จำเป็นและควรพำนักหรือทำงานอยู่ ณ ที่พำนักของตน กรณีจำเป็นจะต้องเดินทางข้ามเขตพื้นที่ ต้องรับการตรวงคัดกรอง และปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการติดตามตัวมารับการตรวจอาการ หรือกักกันตัว

20. กำหนดมาตรการป้องกั้นโรค ให้มีมาตรการป้องกันโรค ดังนี้
1. ให้ทำความสะอาตโตยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่
ที่เกี่ยวข้องก่อนการจัดกิจกรรม และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
2. ให้เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ ผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมกิจกรรม ลูกจ้าง ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามั้ยหรือหน้ากากผ้า
3.ให้บุคคลตามข้อ 2 ล้ำงมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
4. ให้บุคคลตามข้อ 2 เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตรเพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส หรือแพร่เชื้อโรคทางฝ่อยละอองน้ำลาย
5. ให้ควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัด หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็นโดยถือหลักการหลีกเลี่ยงการติตต่อสัมผู้สระหว่างกัน

21. ห้ามการเสนอข่าวหรือทำให้แพร่หลายทางสื่อต่าง ๆ ซึ่งมีข้อความหรือข่าวสารเกี่ยวกับ
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันไม่เป็นความจริงหรืออาจจะทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารดังกล่าวอันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ในกรณีเช่นนี้ ให้เจ้าหน้าที่เตือนให้ระงับหรือสั่งให้แก้ข่ว หรือหากเป็นกรณีที่มีผลกระทบรุนแรงให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พศ ๒๕๕๐ หรือพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘

หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้ มีความผิดตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พศ. ๒๕๔๘ และอาจมีความผิดตามมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘

การดำเนินการตามมาตรการนี้เป็นการดำเนินการชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เป็นอย่างอื่น กรณีมีความจำเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด อาจประกาศเปลี่ยนแปลงหรือลดเงื่อนไขตาม ประกาศนี้ได้ ประกาศใดขัดหรือแย้งประกาศนี้ ให้ใช้ประกาศฉบับนี้แทน ทั้งนี้ตั้งแด่ วันที่ 27 มีนาคม 2563 เป็นตันไป