Categories
ข่าว

รวบแล้ว! สองผัวเมียควบจยย. ฝ่าเคอร์ฟิวขโมยตะกร้าร้านสะดวกซื้อ ที่ อ.เสลภูมิ

จากรณีเมื่อวันที่ 6 เม.ย.63 เวลา 03.51 น. ภาพจากกล้องวงจรปิด ของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ริมถนนสายร้อยเอ็ด-โพนทอง ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด สามารถบันทึกภาพชายวัยกลางคน สวมเสื้อสีเทา กางเกงขายาวสีดำ โดยมีหญิงรูปร่างท้วม สวมเสื้อแขนยาวมีหมวกคลุมศรีษะ สีน้ำตาล กางเกงขาสั้น โดยชายคนขับถือปืนยาว โดยใช้ขาคร่อมเอาไว้ ขับขี่จักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ-แดง มาจอดไว้บริเวณหน้าร้าน ก่อนจะวางปืนพิงไว้ข้างรถ แล้วเดินลงไปส่องกระจกด้านหน้าของร้าน หลังจากนั้นได้เดินวนไปมาบริเวณหน้าร้าน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินไปหยิบตะกร้าสีเขียวของร้านสะดวกซื้อมาวางไว้ข้างรถจักรยานยนต์ ก่อนที่หญิงที่ซ้อนรถมาด้วยจะเดินหยิบตะกร้าเดินออกไปริมถนน แล้วชายวัยกลางคนจะเดินขี่จักรยานยนต์แล้วขับตามออกไป หลบหนีลอยนวล

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม ย.63 เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสลภูมิ ได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ได้ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 13 ตำบลนาแซง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมของกลางเป็นตะกร้าสีเขียวของร้านสะดวกซื้อ จำนวน 3 ใบ และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน ขรธ 67 ร้อยเอ็ด ก่อนจะควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน

จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ต้องหาคือนายมงคล วงค์อนุ อายุ 35 ปี และ เยาวชนหญิง อายุ 18 ปี ซึ่งทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน โดยนายมงคลเล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนและภรรยาได้ขับขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้านพัก เนื่องจากหิวข้าว ก่อนจะออกมาล่าหนูนาที่ทุ่งนาแต่ก็ไม่ได้ จึงได้ขับขี่รถไปที่ร้านสะดวกซื้อดังกล่าว มาถึงจุดเกิดเหตุร้านสะดวกซื้อดังกล่าวยังไม่เปิดทำการ หลังจากนั้นตนจึงหยิบเอาตะกร้าที่หน้าร้านสะดวกซื้อมาจำนวน 3 ใบ ก่อนจะขับรถหลบหนีไป โดยปืนแก๊บที่สะพายมาก็ยืมเพื่อนบ้านมาล่าหนูนา ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อการปล้นทรัพย์แต่อย่างใด

ร.ต.อ นที ทศวรรษ รอง สว.สอบสวน สภ.เสลภูมิ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนาย มงคล วงค์อนุ อายุ 35 ปี และ นางสาวจอมขวัญ ศรีสุโพธิ์ อายุ 18 ปี จำนวน 2 ข้อหาคือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป และข้อหาออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป