เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ในบ้านพักหลังหนึ่ง บ้านเขือง ตำบลบ้านเขือง อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยคนร้ายงัดสายยูที่คล้องแม่กุญแจไว้จนพังเสียหาย เข้ามาภายในบ้าน โดยได้ทำการงัดแงะกระปุกออมสิน จำนวน 4 ใบ โดยวางไว้ชั้นวางทีวี วางที่โต๊ะในห้องนอนของแม่ 1 ใบ ห้องนอนของตน 2 ใบและลิ้นชักในโต๊ะของห้องพระอีกส่วนหนึ่ง โดยขโมยเงินสดซึ่งเป็นแบงค์ห้าสิบ เก็บไว้ 3 ปี และเงินเหรียญ สูญเงิน กว่า 20,000 บาท หลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าของบ้านได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรววจ สภ.เชียงขวัญ พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปมอบให้เป็นเบาะแสติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากเจ้าของบ้าน จากกรณีถูกงัดบ้านขโมยกระปุกออมสินไม่มีความคืบหน้าและเบาะแสเพิ่มเติม ทราบชื่อเจ้าของบ้านคือ ปิยะพงศ์ น้าวแสง อายุ 32 ปี เล่าว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 10 เม.ย.63 พ่อของตนซึ่งดูภาพกล้องวงจรปิดจากโทรศัพท์ ได้โทรแจ้งกับตนว่ามีคนร้ายเข้ามาในบ้านและได้ดันหน้ากล้องวงจรปิดแหงนขึ้นฝ้าเพดาน 2 ตัว ตนจึงรีบโทรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงขวัญและรีบกลับมาบ้าน เนื่องจากตนทำงานใน อ.ธวัชบุรี ซึ่งระยะทางไกลกว่า 30 กม.
พอมาถึงบ้านก็ไม่คนร้ายแล้ว จึงรีบตรวจสอบภายในบ้านซึ่งก็พบว่าประตูด้านหลังบ้านถูกงัด ภายในห้องนอน 2 ห้อง ถูกงัดกระปุกออมสิน และกระปุกออมสินที่วางหน้าชั้นทีวีก็ถูกงัด นอกจากนั้นก็มีลิ้งชักโต๊ะในห้องพระ สูญเงินกว่า 20,000 บาท โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย.เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลังฐาน ภจว.ร้อยเอ็ด ได้ตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงที่จุดเกิดเหตุ แต่จนถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 15 วันก็ยังไม่มีเบาะแสเพิ่มเติม ทางตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงขวัญ เร่งเำเนินการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะตนก็อยากได้ส่วนนั้นคืนเพราะคือเงินเก็บในกระปุกออมสินของลูกชาย ที่เด็บมานานกว่า 3 ปี และไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก เพราะด้วยวิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ยิ่งจะทำให้คนลำบากในการทำมาหากิน ซ้ำยังต้องมาหวาดระแวงกับการขโมยสิ่งของอีก
