Categories
ข่าว

ร้อยเอ็ดยังไม่พบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม ครบรอบ 30 วัน วอนปชช.เว้นระยะห่างทางสังคม

วันนี้ (28 เมษายน 2563) เวลา 15.00 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการแถลงข่าว เรื่อง สถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 30 ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายทวี จงประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายชำนาญ ชื่นตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายเจนเจตน์ เจนนาวิน ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด พ.อ.วีระพงษ์ คำสิทธิ์ รอง ผอ.รมน.ร้อยเอ็ด นายแพทย์พิทักษ์พงศ์ พายุหะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และผู้แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ร่วมแถลงข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 28 เมษายน 2563) จำนวน 283 ราย พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 จำนวน 3 ราย (กลับบ้านแล้ว 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 277 ราย และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 3 ราย ข้อมูลการติดตามผู้เดินทาง มาจากพื้นที่เขตติดโรคติดต่ออันตราย (ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 28 เมษายน 2563) แยกกักกันตัวเองที่บ้านพัก จำนวน 146 คน ติดตามเฝ้าระวังครบ 14 วัน จำนวน 146 คน ข้อมูลผู้เดินทางมาจากประเทศอื่นๆ คุมไว้สังเกตอาการที่บ้านพัก จำนวน 752  คน ติดตามครบ 14  วัน จำนวน 743 คน อยู่ระหว่างติดตามยังไม่ครบ 14 วัน จำนวน 9 คน    ข้อมูลผู้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ปริมณฑล (ข้อมูลระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 28 เมษายน 2563) แยกตัวสังเกตอาการที่บ้านพัก จำนวน  28,189 คน ติดตามครบ 14 วัน จำนวน 25,858 คน  ยังไม่ครบ 14 วัน จำนวน 2,331 คน และผู้เดินทางมาจังหวัดพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ แยกตัวสังเกตอาการที่บ้านพัก จำนวน 12,850 คน ติดตามครบ 14 วัน จำนวน 11,657 คน ยังไม่ครบ 14 วัน  จำนวน 1,193 คน  

ช่วงแรกของการพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศไทย เป็นการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ เมื่อรัฐบาลมีนโยบายยกเลิกเที่ยวบินจากต่างประเทศ ทำให้รูปแบบการติดเชื้อเปลี่ยนไปเป็นการติดภายในประเทศ จากพฤติกรรมที่คนอยู่ใกล้ชิดกัน การไปในสถานที่แออัด เช่น ตลาด สถานบันเทิง หรือป่วยแล้วไม่หยุดงาน จึงมีการ แพร่เชื้อเป็นวงกว้าง รวมทั้งผู้ที่ทำงานหรือออกไปนอกบ้านนำเชื้อเข้าบ้าน ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อภายในครอบครัว หากเป็นกรณีคู่สามี-ภรรยา โอกาสติดสูงถึงร้อยละ 43 และยังทำให้ลูก หรือพ่อ/แม่ ที่สัมผัสใกล้ชิดในครอบครัวมีโอกาสติดเชื้อด้วยร้อยละ 14.8-16.4 นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุระหว่าง 0-14 ปี พบว่า เกิดจากการสัมผัส พ่อ-แม่ ถึงร้อยละ 45 รองลงมาเป็นการสัมผัสจากบุคคลที่อาศัยร่วมบ้าน ร้อยละ 24 และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ป่วยจากการสัมผัสคนร่วมบ้าน ร้อยละ 34 ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดระหว่างคนใน ครอบครัวเมื่อมีอาการไข้หรืออาการทางเดินหายใจ ควรเว้นระยะห่างระหว่างกัน ใช้หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่ในบ้าน หากมีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก ให้แยกสิ่งของเครื่องใช้ และแยกสำรับอาหาร เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อ

จังหวัดร้อยเอ็ดขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่าน ปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายโรคอย่างเคร่งครัด “การ์ดอย่าตก ยกให้สูง เป็นนิสัย” ทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เนื่องจากพบการระบาดระลอกสองในหลายประเทศหลังจากผ่อนคลายมาตรการ จึงต้องคงการปฏิบัติตัวให้เป็นนิสัยในการใช้ชีวิตประจำวันตลอดไป

จังหวัดร้อยเอ็ดขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนทุกท่าน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
“ล้างมือ กินร้อน ไม่กินร่วม สวมหน้ากากอนามัย อยู่ไกลกัน 2 เมตร”