วันที่ 30 เม.ย.63 นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผวจ.มหาสารคาม ทพ.วัฒนะ ศรีวัฒนา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม น.ส.ภัทราวรรณ กลับกลายดี และ นางจารุรัศม์ โคตรคำ ผู้แทนประกันสังคม จังหวัดมหาสารคาม ร่วมโฟนอินในรายการ “ผู้ว่าฯพบประชาชน ” ประเด็น สถานการณ์ การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด -19 มาตรการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ในระบบประกันสังคม ออกอากาศทาง สวท. มหาสารคาม ความถี่ 531 กฮ. ความถี่ 106.50 มฮ. และรายการสด สวท. มหาสารคาม
นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผวจ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 ใน จ.มหาสารคาม ไม่พบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องมา 28 วันแล้ว มีผู้เฝ้าระวัง 10 ราย ซึ่งสอดคล้องกันภาพรวมทั่วประเทศ ส่วนจะมีการผ่อนปรนหรือไม่ คงต้องรอการสั่งการเชิงนโยบายจากศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) ก่อน เพื่อให้เกิดเอกภาพพร้อมกันทั่วประเทศ และมีข้อกฏหมายรองรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติต่อไป ในเบื้องต้น ได้มีการขยายระยะเวลาการบังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปอีกคราวหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 พฤษภาคม 2563
สำหรับมาตรการในการเยียวยาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมนั้น กระทรวงแรงงานมี 3 มาตรการคือ 1.ลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนโดยนายจ้างหรืออัตราร้อยละ 4 เป็นระยะเวลา 3 เดือน ผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือร้อยละ 1 เป็นระยะเวลา 3 เดือนและผู้ประกันตนมาตรา 39 เหลือ 86 บาทเป็นระยะเวลา 3 เดือน 2.ขยายกำหนดเวลาการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 39 สำหรับงวดค่าจ้างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมออกไปอีก 3 เดือน งวดค่าจ้างเดือนมีนาคม 2563 ให้นำส่งเงินภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ค่าจ้างเดือนเมษายน ให้นำส่งเงินภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2563 งวดค่าจ้างเดือนพฤษภาคมให้นำส่งเงินภายในวันที่ 15 กันยายน 2563 3.เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยให้รับเงินว่างงาน 62 เปอร์เซ็นต์ ของค่าจ้างรายวันไม่เกิน 90 วัน ทั้งนี้ผู้ประกันตน สามารถแจ้งความประสงค์ ได้ที่ สายด่วน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สายด่วน 1546 และ 1506 กด 3
โดยเตรียม ผ่อนปรน 6 ประเภท ดังนี้
– ตลาด (ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดินแผงลอย)
– ร้านอาหาร (ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศครีม นอกห้าง ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่)
– กิจการค้าปลีกส่ง (Supermarket ร้านสะดวกซื้อ รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้า ร้านค้าปลีกขนาดย่อม ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านขายปลีก ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม)
– กีฬาสันทนาการ (กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เต้นรำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ให้เล่นเป็นทีม และไม่มีการแข่งขัน ได้แก่เทนนิส ยิงปืน ธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม)
– ร้านตัดผมเสริมสวย (เฉพาะตัด สระ ไดร์)
– อื่น (ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์)
ทั้งนี้ ให้เริ่มต้นเปิดทำการตั้งแต่ วันอาทิตย์ ที่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป โดยจะมีการประเมินทุก 14 วัน หากไม่ดีขึ้นก็จะมีการทบทวนใหม่ ซึ่งอยู่ที่ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ และประชาชนทุกคน