Categories
ข่าว

“ไม่หักเงินเดือน” บอย-เจี๊ยบ ปิดร้านชาบู 2 เดือน ยังจ่ายเงินลูกน้อง พร้อมมีข้าวกินฟรี

กลับมาเปิดร้านชาบู Gotoku By Shabu King หลังคลายล็อกดาวน์แล้วสำหรับ บอย พีซเมคเกอร์ และ เจี๊ยบ พิจิตตรา หลังจากปิดไปนานเกือบ 2 เดือน ล่าสุดทั้งคู่เปิดใจกับสถานการณ์ที่ผ่านมา

บอย : กลับมาเปิดหลังปิดไปเกือบ 2 เดือน แต่ก็ยังเปิดได้ไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนเปิดได้ครึ่งหนึ่ง เพราะว่าทุกคนมาก็ต้อง 1 โต๊ะ 1 คน การบริการก็ทำได้ครึ่งหนึ่ง

เจี๊ยบ : เราเอากฎมากางมาทำทุกอย่างตามนโยบายรัฐเลยค่ะ ร้านเราโชคดีที่มีพื้นที่พอวางโต๊ะ 1 โต๊ะ 1 เมตรได้ พอเข้ามาต้องมีจุดตรวจ ช้อน ส้อม จานคนละชุด

ยากมั้ยการทำแบบนี้ เพราะเราเป็นร้านชาบู
เจี๊ยบ : จริงๆ ถามว่ายากมั้ย มันก็ยากค่ะ เพราะว่าลูกค้าโทรมาเยอะมาก มีลูกพามาด้วยได้มั้ย ถ้ามีคุณแม่อายุเยอะจะทำยังไง

ปกติร้านเราเป็นครอบครัวมาซะส่วนใหญ่ ก็ยอมรับว่าเราต้องปฏิเสธลูกค้าไปซะส่วนใหญ่ เพราะเราไม่สามารถจัดการตรงนั้นได้

บอย : ก็มีลูกค้าโทรมาเช็ก จองล่วงหน้า ตอนแรกๆ เราสองคนก็กลัวว่าจะมีคนมาทานมั้ย เพราะชาบูก็อย่างที่รู้ว่าคนจะมาทานเป็นครอบครัว มากับเพื่อน คือมันไม่ใช่อาหารที่ทานคนเดียว

เราก็เลยพยายามคิดว่าจะทำยังไงดี เครียดกันนะ แต่ปรากฏว่าเปิดร้านวันแรกลูกค้าที่มากลุ่มแรกมา 5 ท่าน เขามารถคันเดียวกัน แต่พอมาถึงเขาก็นั่งแยกโต๊ะกันเองเลย 5 ท่าน ผมว่ามันเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมที่ทุกคนมี และทุกคนก็ตั้งใจปฏิบัติตามกฎระเบียบ

รายได้หายไปเยอะมั้ย กลับมาแต่เปิดลักษณะนี้
เจี๊ยบ : แน่นอน แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย (หัวเราะ) เพราะที่ผ่านมาเดือนกว่าเงียบ แทบจะนอน
บอย : ดีครับ ยังไงก็ดีกว่าที่เหลือแค่เดลิเวอรี่อย่างเดียวอยู่แล้ว อาหารเราก็ยังราคาปกติ

เสียรายได้ที่ผ่านมาสาหัสสากรรจ์ขนาดไหนที่ต้องติดลบ เสียทุนไปเยอะ
บอย : เราพยายามประคองซึ่งกันและกัน และบอกน้องๆ ว่าถ้าเรายังไหวกันอยู่ เราก็จะดูแลพวกเขา น้องๆ ที่ดูแลบริการ อยู่ในครัว ทุกตำแหน่ง เราพยายามดูแลเขาโดยไม่ลดเงินเดือนเขาเลย

พนักงานเข้ามาทำงานเต็มร้อย
บอย : ทำงานปกติทั้งกะเลย ร้านเราทำ 2 กะ ทุกคนยังได้ทำเต็ม ผมว่ามันเป็นเรื่องเหมือนเป็นครอบครัว ดูแลซึ่งกันและกัน

แต่ทั้งนี้ไม่ได้บอกว่าถูกหรือผิด เพราะว่าบางคนไม่ไหวก็มี เราก็บอกกับน้องๆ พนักงานว่าเราจะดูแลเขาให้นานที่สุดที่เราจะดูแลเขาไหว แต่ที่ผ่านมาเราก็ยังไม่ไปลดเงินเดือนเขา

สูญรายได้ไปเท่าไร
เจี๊ยบ : ถ้าพูดเป็นเรื่องเงินจริงๆ ทุกคนมันเยอะอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าอย่างที่รู้เราก็มีทำอาหารแจก

เรารู้สึกว่าเราได้มาในส่วนของกำลังใจที่เวลาเราให้แล้วเรารู้สึกว่าเออถึงแม้ว่าเราจะขาดทุนในส่วนอื่นๆ แต่ว่าที่ได้มาเราได้เรื่องดีๆ ที่ได้กำลังใจกลับมา

บอย : เราไม่เคยเห็นภาพที่คู่ค้าของเรา ปกติเราซื้อสั่งผัก สั่งวัตถุดิบกับเขา เขามาถึงแล้วเอาของวางที่ร้านแล้วบอกไม่คิดเงิน บางคนเอาหมูมาให้ 10 กิโล เอาข้าวมาให้เป็น 100 โล ทุกวันนี้ก็ยังมีมาเรื่อยๆ

ผมเลยรู้สึกว่าถึงแม้จะขาดทุนเรื่องรายได้ไป แต่เราได้ในเรื่องของกำไรในเรื่องของความสุข พนักงานก็ยินดีที่จะทำแจก ผมเชื่อว่าถึงแม้เราจะกล้ากลับมาใช้ชีวิตมากขึ้น แต่ก็ยังมีคนลำบาก ยังมีคนมารับข้าวแจกเยอะเฉลี่ยคนมารับหน้าร้าน 70-100 วันหยุดพีคๆ ก็มา 200 คน คนเดือดร้อนเยอะ

เราผ่านมาแล้ว เราเข้าใจว่าตอนที่มันลำบากเป็นยังไง ตอนที่มันไม่มีจริงๆ มันรู้สึกยังไง เราเลยรู้สึกว่าอันนี้เป็นสิ่งอันเล็กน้อยเท่านั้นที่เราทำ แต่ว่าเราก็ทำตามกำลังของเรา