Categories
ข่าว

ร้อยเอ็ดไม่ป่วยโควิดเพิ่ม เตือนประชาชน เข้าสถานที่ปิด ควรสวมหน้ากากป้องกันโรค

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เวลา 15.00 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการแถลงข่าว เรื่องสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 53 ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดร้อยเอ็ด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายเจนเจตน์ เจนนาวิน ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด พ.อ. กล้าณรงค์ วิสุตกุล ผู้แทนรอง ผอ.รมน.ร้อยเอ็ด นายคมเพชร สีดามาตย์ ผู้แทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์พิทักษ์พงศ์ พายุหะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และผู้แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ร่วมแถลงข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 29 พฤษภาคม 2563) จำนวน 340 ราย พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 3 ราย (กลับบ้านแล้ว 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 335 ราย รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 ราย ข้อมูลการติดตามผู้เดินทางมาจากพื้นที่เขตติดโรคติดต่ออันตราย (ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 29 พฤษภาคม 2563) แยกกักกันครบ 14 วัน จำนวน 179 คน ข้อมูลผู้เดินทางมาจากประเทศอื่นๆ แยกกักกันครบ 14 วัน จำนวน  802 คน ข้อมูลผู้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล (ข้อมูลระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 29 พฤษภาคม 2563) แยกตัวสังเกตอาการที่บ้านพัก จำนวน 43,389 คน ติดตามครบ 14 วัน จำนวน 40,993 คน ยังไม่ครบ 14 วัน จำนวน 2,396 คน และผู้เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ แยกตัวสังเกตอาการที่บ้านพัก จำนวน  21,854 คน ติดตามครบ 14 วัน จำนวน  20,482 คน ยังไม่ครบ 14 วัน จำนวน 1,372 คน  การเฝ้าระวังเชิงรุกในชุมชน (ระหว่างวันที่ 3 – 29 พฤษภาคม 2563) โดยการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการในกลุ่มประชาชน ที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดภูเก็ต ยอดสะสมจำนวน 177 คน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 176 คน รอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 1 คน

ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนความเสี่ยงของการอยู่รวมกลุ่มในพื้นที่จำกัด ระบบระบายอากาศปิด และการใช้เครื่องปรับอากาศ เช่น ในรถโดยสารสาธารณะ ร้านอาหารที่มีระบบระบายอากาศแบบปิด และใช้เครื่องปรับอากาศที่อากาศไหลเวียนในพื้นที่จำกัด จะก่อให้เกิดการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้เป็นจำนวนมาก เพราะทุกคนต้องถอดหน้ากาก ขณะรับประทานอาหาร ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้นด้วย ดังนั้นการอยู่ในพื้นที่จำกัดมีระบบอากาศปิดและใช้เครื่องปรับอากาศ เช่น ห้องประชุม รถปรับอากาศ รถโดยสารสาธารณะ ทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างให้ได้ 1-2 เมตร บนโต๊ะอาหารอาจต้องมีฉากกั้น เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของละอองฝอย หรือให้นั่งแยกโต๊ะ ขณะรับประทานอาหาร ในร้านอาหารที่มีระบบถ่ายเทอากาศแบบปิด ที่ใช้เครื่องปรับอากาศ

วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก เพื่อกระตุ้นให้ทุกๆ ประเทศตระหนักถึงอันตรายและความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ในปีนี้ได้กำหนดประเด็นการรณรงค์ คือ “ติดบุหรี่ ติดโควิด เสี่ยงตายสูง” เนื่องจากสมรรถภาพปอดของผู้ที่สูบบุหรี่นั้นจะด้อยกว่าปอดของคนปกติที่ไม่สูบบุหรี่ เพราะปอดของผู้ที่สูบบุหรี่มีสารพิษต่างๆ ที่ตกค้างจากการที่สูบบุหรี่อยู่ และผู้ที่ สูบบุหรี่มาเป็นเวลานานอาจมีโรคหรือพยาธิสภาพเกิดขึ้นที่ปอด เช่น โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็งปอด เป็นต้น จึงทำให้ ผู้ที่สูบบุหรี่เมื่อได้รับเชื้อโควิด 19 เข้าไป อาจจะมีอาการรุนแรงและเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงกว่าคนปกติที่ไม่สูบบุหรี่สูงถึง 14 เท่า จึงขอรณรงค์ให้ ลด ละ เลิก สูบบุหรี่โดยสามารถเข้ารับการรักษาที่คลินิกเลิกบุหรี่ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง