เมื่อวันที่ 30 พ.ค.63 เมื่อเวลา 10.40 น. พ.ต.ต.เอกพงษ์ เดชพรมรัมย์ สารวัตรเวร สอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ว่า สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุขโมยเงินทุบตู้บริจาค เพื่อสมทบกองทุนพระพุทธวิโรคาบวรไตรรัตนมงคล ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหน้าหอพระพุทธวิโรคาบวรไตรรัตนมงคล ซึ่งอยู่ประตู 1 ด้านทิศตะวันออกของโรงพยาบาลบุรีรัมย์ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ทราบ ก่อนรีบรุดไปพร้อมด้วย พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มนัสวุฒิ บรรยงค์ รอง ผกก.(สอบสวน) และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ภายในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ บริเวณด้านข้างหอพระพุทธวิโรคาบวรไตรรัตนมงคล ซึ่งอยู่ประตู 1 ด้านทิศตะวันออกของโรงพยาบาลบุรีรัมย์ พบตู้บริจาคถูกทุบจนแตกเสียหาย และยังมีเงินเหรียญอยู่ภายในตู้จำนวนหนึ่ง ส่วนเงินธนบัตรไม่มีหลงเหลือภายในตู้ ถูกทิ้งไว้ เมื่อไปด้านหลังหอพระพบเจ้าหน้าที่ รปภ.ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเป็นชายไว้ได้ 2 คน โดยมีถังพลาสติก สีหลือง วางอยู่ข้างตัว ภายในมีเงินอยู่ นับได้ 4,480 บาท และยังมีกระเป๋าถือผ้าใบ สีเทา ภายในมีเงินอยู่ 2,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีกระเป่าเสื้อผ้า ของผู้ก่อเหตุวางรวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองคน มาสอบสวนที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ทราบชื่อต่อมา คือ นายสกาว รุณเกตุ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 7 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ส่วนนายพรชัย จำรัส อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา อ้างว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเพราะมาด้วยกัน
โดย จากการสอบสวน นายสกาว ให้การว่า ทำงานรับจ้างเลี้ยงเป็ด อยู่ที่ สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อเย็นวานนี้(29 พ.ค) ได้เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา พร้อมกับนายพรชัย เพื่อมาเยี่ยมพี่ชายที่ป่วยอยู่ รพ.บุรีรัมย์ โดยอาศัยนอนพักอยู่ใกล้กับหอพระพุทธวิโรคาบวรไตรรัตนมงคล จนเช้าวันนี้จะกลับบ้านที่ จ.ปราจีนบุรี แต่มีเงินไม่พอค่ารถเดินทางกลับ จึงได้ไปยกตู้บริจาคที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ด้านหน้าหอพระพุทธวิโรคาบวรไตรรัตนมงคล ไปวางด้านข้างแล้วใช้ก้อนหินทุบจนแตก ก่อนไปหยิบถังพลาสติกมากอบเอาเงินใส่ แต่มีป้าที่ดูแลหอพระฯ มาเห็นเข้าตะโกนเรียก รปภ.มาจับตัวส่งตำรวจ โดยอ้างว่าที่ก่อเหตุ เพราะนายพรชัย ให้ทำ เพื่อหาเงินค่ารถที่ยังขาดอยู่กว่า 300 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ” ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
