Categories
ข่าว

เรียกความเชื่อมั่น!! ‘บิ๊กตู่’ นำทีมเศรษฐกิจ โชว์ตัว ยันเร่งบรรเทาปากท้อง ปชช.

วันที่ 12 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำทีมเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียกให้ทั้ง 3 คนมายืนใกล้ๆ พร้อมกล่าวว่า มายืนด้านซ้ายและด้านขวาตนในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และกล่าวแนะนำนายอาคม ว่า หลังจากวานนี้นายอาคม ได้เข้าพิธีถวายสัตย์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถือเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ในวันนี้ก็แล้วกัน ขณะเดียวกันในวันเดียวกันนี้ที่ตนนำฝ่ายเศรษฐกิจมา เพื่อสร้างความเข้าใจกับทุกคนทั้งในส่วนของสื่อ สังคม และประชาชนโดยรวมว่า เราจะทำอย่างเต็มที่ และจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้อย่างระมัดระวังที่สุดให้มาตรการต่างๆ ครอบคลุมทุกกลุ่ม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับที่ประชุม ครม. ในวันนี้ มีการอนุมัติหลายเรื่องเกี่ยวกับงานด้านเศรษฐกิจ โดยภารกิจสำคัญที่ตนมุ่งเน้นเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา คือ การดูแลและบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจปากท้องช่วยคนไทยหลายสิบล้านคนให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ ขณะเดียวกัน ส่วนของคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศหลายแสนคนที่กำลังทยอยเดินทางกลับมาก็ต้องมีการดำเนินการต่อเนื่อง ขณะที่สิ่งที่ประชุมใน ศบศ. ก็มีทั้งมาตรการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมปรับปรุงมาตรการต่างๆ ให้ดีขึ้น และมีมาตรการใหม่ๆออกมาเพิ่มเติม ซึ่งเราต้องทำหลายมาตรการไปพร้อมกันโดยเป้าหมายหลักคือการช่วยคนที่มีรายได้น้อย ให้พอมีเงินใช้จ่าย และทำให้คนที่มีรายได้มากหรือคนที่มีเงินแต่ไม่อยากใช้ออกมาใช้เงินให้มากขึ้น เพื่อให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งมีทั้งผู้ผลิต แปรรูป และตลาด

วันนี้ทุกคนต้องช่วยกันอย่าไปรังเกียจรังงอนซึ่งกันและกัน อีกทั้งตนขอขอบคุณภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสมาคม องค์กรและภาคธุรกิจต่างๆ ที่เข้าร่วมเวิร์กช็อป ที่รัฐบาลได้จัดตั้งขึ้น เพื่อนำเสนอความคิดเห็นให้ตนได้รับทราบ เพื่อให้ตรงกับความต้องการ พร้อมแก้ปัญหาและอุปสรรคในช่วงที่ผ่านมา โดยหลายคนได้เสนอความคิดผ่านคณะทำงานต่างๆ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการให้รัฐบาลนำมาวิเคราะห์และหาวิธีการดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จให้ได้โดยเร็ว

“เรื่องสำคัญที่สุดคือ การที่เราใช้คำว่ารวมไทยสร้างชาติ ผมย้ำว่าทุกคนที่เป็นคนไทย เกิดในผืนแผ่นดินไทย จะต้องจับมือร่วมกันทุกภาคส่วน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพื่อช่วยนำพาประเทศไทยของเราให้ก้าวไปข้างหน้า วันนี้มี 3 มาตรการสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายภายในประเทศ ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติวันนี้ ได้แก่ 1.มาตรการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ประชาชน 14 ล้านคนคนละ 1,500 บาท อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่ 2.มาตรการคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้น การใช้จ่าย โดยประชาชนจ่ายครึ่งหนึ่ง และรัฐบาลช่วยออกอีกครึ่งหนึ่ง สำหรับผู้มีรายได้น้อยและร้านค้าปลีกที่ต้องขึ้นทะเบียน และ 3.มาตรการช็อปดีมีคืน คือประชาชนนำค่าใช้จ่ายซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาท ซึ่งขอ 50,000 คงไม่ไหว โดยให้ซื้อสินค้าคงทน ซึ่งจะเห็นว่าเรามีมาตรการเฉพาะกลุ่มลงไปและจะทยอยออกมาเรื่อยๆ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับทั้ง 3 มาตรการเพื่อเป็นการดึงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ คนซื้อมีเงินซื้อสินค้า และบริการ ขณะที่เจ้าของสินค้าและคนผลิตสามารถขายของได้ เกิดการกระจายเงินสร้างงานและสร้างรายได้ตามมาทั้งในระบบ และเพื่อช่วยให้ดำรงชีพอยู่ได้ ดังนั้นขออย่านำไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ เพราะจะกลายเป็นปัญหาอื่นๆ ได้ เช่น การเป็นหนี้ครัวเรือน ดังนั้นช่วงนี้ต้องใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างรัฐบาลต้องมองทั้งระบบ และทำหลายมาตรการไปพร้อมกัน ซึ่งหลังจากนี้จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของคนไทยให้ได้ ขณะเดียวกันตนได้ติดตามจากต่างประเทศและนำมาเปรียบเทียบกับประเทศไทย ซึ่งมีหลายส่วนที่เหมือนกันเพียงแต่หลายประเทศเป็นประเทศใหญ่และมีเงินมากกว่า แต่เราต้องทำให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่

“ทุกประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ทั้งหมดหลายประเทศแย่กว่าเราอีก แต่เรามีศักยภาพอยู่ ดังนั้นเราอย่าทำลายศักยภาพของเราเองด้วยเรื่องที่ไม่ควร เพราะจะทำความเชื่อมั่นต่างๆหายไป แล้วทำอย่างไร จะเอาอะไรกลับคืนมา เอากลับมาไม่ได้แล้ว ถ้าเสียหายตอนนี้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงนี้การแข่งขัน เป็นช่วงการเเก้ปัญหาโควิด และช่วงดำเนินการโลกหลังโควิด ถ้าเราทำลายกันตอนนี้ ถึงเวลาเราจะฟื้นกลับมาไม่ได้เลย เพราะเราไม่ทันเขาแน่นอน จึงขอฝากไปด้วยถึงพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้มากที่สุด ช่วยกันเคารพกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับคนอื่นแค่นั้นเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มคณะราษฎรนัดชุมนุม 14 ตุลาคม 2563 และประกาศจะเดินทางมาค้างคืนที่ข้างทำเนียบ เพียงสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการอยู่แล้วต้นไม่ต้องสั่งการอะไรเพิ่มเติมอยู่แล้ว

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินออกไปจากห้องแถลงข่าวทันทีโดยไม่ได้ตอบคำถามเรื่องอื่นๆ แต่อย่างใด แต่ได้มอบหมายให้ทีมเศรษฐกิจเป็นผู้แถลงกับสื่อมวลชนต่อ