วันที่ 14 ต.ค.63 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมด้วย นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขาธิการพรรค นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ และนางสาวจุฑาทัตต เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึง นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ใส่เสื้อเหลืองเดินทักทายประชาชนที่รอรับเสด็จฯ บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์
โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ตนและคณะมาในนามพสนิกรชาวไทยเพื่อรับและส่งเสด็จฯ ในนามส่วนตัว ไม่ใช่ในนามพรรค และที่นัดหมายกันจุดนี้ เพราะเห็นว่าเป็นลานกว้าง มองเห็นง่าย และสะดวก ไม่มีเจตนาอย่างอื่น แม้จะอยู่ใกล้กับกลุ่มที่มีการชุมนุม ก็ไม่กังวลว่าจะเกิดการประทะ เพราะส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุที่มาเพื่อแสดงความจงรักภักดี ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่น จึงไม่ขอแสดงความเห็นถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคณะราษฎรที่เกิดขึ้นโดยไม่ประสงค์ที่จะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนหรือไม่สบายใจ ไม่มีเจตนาเผชิญหน้า หรือท้าทายกับใคร แล้วจะรอจนส่งเสด็จกลับ และฝ่ายอื่นๆ ถ้ามีอุดมการณ์จริง ก็ไม่ควรจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกันตั้งสติและให้สติกัน แล้วจะเข้าใจว่า ความวุ่นวายใดๆ ก็ตามล้วนแต่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
ส่วนที่มีการปล่อยภาพรถกระบะบรรทุกคนใส่เสื้อเหลือง เหมือนภาพการขนคนมาร่วมชุมนุมเป็นการจัดตั้งมวลชนให้กลายเป็นม็อบชนม็อบหรือไม่ นายสุเทพ ระบุ ไม่ทราบว่าเป็นเหตุการณ์ตอนไหน แต่ที่ตนมาเป็นการนัดหมายกันมาด้วยใจ
สำหรับกรณีที่มีการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ตนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนดีตั้งใจทำงานและมาเป็นนายกฯ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน ตนยืนยันเช่นนี้
ขณะเดียวกัน นายสุเทพ ยังกล่าวถึงปัญหาการแก้รัฐธรรมนูญว่าวันนี้ทุกฝ่ายต้องงช่วยกันอธิบายเนื้อหาสาระตามความเป็นจริง รวมถึงข้อดีข้อเสียในข้อเสนอที่จะให้แก้ไขอย่างตรงไปตรงมา แล้วให้คนไทยทุกคนช่วยกันตัดสินใจ ด้วยความรับผิดชอบ ส่วนจะต้องทำประชามติก่อนหรือหลังรับหลักการก็เห็นว่าควรเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้
